ผู้กำกับโจ้ อ้าง ไบโพลาร์ ไม่ต้องรับโทษจริงหรือ ?

ผู้กำกับโจ้ อ้าง ไบโพลาร์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ชี้ ตาม ม. 65 ไม่ต้องรับโทษ หากไม่สามารถบังคับตนเองได้เลย เพราะมีจิตบกพร่องโรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน แต่ถ้าโรคจิตสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่น่าจะแต่งตั้งเป็นผู้กำกับ

กระแสข่าวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผกก.โจ้) อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เคยมีประวัติรักษาโรคไบโพลาร์ มาสักระยะหนึ่งแล้ว ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีความจำเป็นต้องรับยารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง พร้อมคำให้การของคนใกล้ตัว ที่ออกมาเป็นพยานว่ามีอาการป่วยจริง ซึ่งอาจนำประเด็นนี้ไปสู่การต่อสู้ในชั้นศาล

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "อดีตผู้กำกับโจ้/อ้างไบโพลาร์/เพื่อไม่ต้องรับโทษได้หรือไม่/ตามข่าวฟังคำตอบข้างล่างนี้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

พร้อมกับเขียนข้อกฎหมายอธิบายไว้ใต้โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า "ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65 การที่ ผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษต้องเป็นกรณีที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เลย เพราะมีจิตบกพร่องโรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน

แต่ถ้ารู้ผิดชอบอยู่บ้างบังคับตัวเองได้บ้างยังต้องรับโทษแต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าขณะกระทำความผิด รู้ผิดชอบบังคับตนเองได้

ต้องรับผิดเต็มตามที่กฎหมายกำหนดไม่สามารถลดโทษหรือไม่ต้องรับโทษส่วนตัวผมเห็นว่าต้องรับโทษเพราะ หากผู้กำกับโจ้เป็นโรคจิตสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่น่าจะแต่งตั้งเป็นผู้กำกับนะครับความเห็นส่วนตัว

สอบถามข้อกฎหมาย 02 948 5700 ทนายคลายทุกข์ ให้ความรู้เบื้องต้นกับพี่น้องประชาชน"