โควิดประจวบพุ่ง! ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวเกือบ 400 ราย อดีตรอง ผบก.ประจวบฯ สงสัยช่วงโควิดระบาด กลับพาตำรวจจบใหม่มาฝึกที่ศูนย์ฝึกรบพิเศษค่ายฤทธิฤาชัยป่าละอู ทำติดเชื้อ 340 คน ถามจะฝึกไปรบกับใคร? สสจ.เผยตำรวจทั้งหมดฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็มแล้ว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ สถิตินิวไฮ จำนวน 396 คน สูงสุดตั้งแต่การระบาดระลอกใหม่เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยที่ อ.หัวหิน มี 2 คลัสเตอร์สำคัญ ใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 400 ราย โดยคลัสเตอร์สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ คลัสเตอร์ศูนย์ฝึกรบพิเศษค่ายฤทธิฦาชัย (ป่าละอู) สังกัดตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร หมู่ 3 บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ติดเชื้อสะสมแล้ว 340 ราย
ซึ่งค่ายดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านป่าละอูบน ซึ่งมีคลัสเตอร์บ้านบ๊อบบี้ชุมชนกะเหรี่ยงป่าละอู ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้มีคำสั่งปิดหมู่บ้านดังกล่าว 14 วันพร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อควบคุมการระบาด หลังพบชาวกะเหรี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ต่อเนื่อง ล่าสุดป่วยสะสม 66 ราย
โดยทั้งจังหวัดกำลังรักษาผู้ป่วยอยู่ 1,655 ราย เหลือเตียง 980 เตียง พบผู้ป่วยอาการรุนแรง 62 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 8 ราย และใช้ Hi Flow 20 ราย โดยขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของจังหวัดทะลุ 8,214 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย สะสม 52 ราย
ด้านนายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับตำรวจนายสิบจบใหม่เดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ารับการฝึกพิเศษ 1 เดือน ที่ค่ายฤทธิฦๅชัย กลายเป็นผู้ติดเชื้อโควิด โดยเก็บตัวอย่างส่งตรวจ PCR จำนวน 484 ราย พบเชื้อโควิด 340 นาย จากการสอบสวนโรคพบประวัติตำรวจนายสิบจบใหม่ทั้งหมด ฉีดวัคซีนชิโนแวค ครบ 2 เข็ม
ทั้งนี้ จากการประเมินตามหลักวิชาการด้านระบาดวิทยาเบื้องต้น คาดว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดอาจจะติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งเดิมพบว่ามีการระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.หัวหิน แต่ขณะนี้ได้ส่งตัวอย่างเชื้อของนักเรียนนายสิบตำรวจไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สมุทรสงคราม เพื่อให้ทราบผลที่ชัดเจน ขณะที่สายพันธุ์อัลฟาหรือสายพันธุ์อังกฤษ จะมีการระบาดกระจายในพื้นที่ อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด และอำเภออื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• สาวโพสต์แฉ โรงงานที่ประจวบฯ ไม่ยอมปิด หลังพบคนงานติดโควิด 53 คน กักตัว 500 คน
• ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ สั่งปิดโรงงานสัปปะรด 14 วัน หลังพบติดโควิด 112 ราย
• ประจวบฯ ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 100 ราย ส่วนใหญ่มาจาก คลัสเตอร์ผับหัวหิน
จากการตรวจสอบพบว่า ตำรวจนายสิบจบใหม่ เกือบ 500 คนดังกล่าว เดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เข้ารับการฝึกพิเศษ หลักสูตรระยะเวลา 1 เดือน พบผู้ติดเชื้อโควิดครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม สุ่มตรวจ ATK 25 ราย พบผลเป็นบวก 21 ราย ส่งตรวจ PCR ซ้ำ 21 ราย พบติดเชื้อโควิด ทั้ง 21 ราย นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน จากนั้นวันที่ 26 สิงหาคม ทีมสอบสวนโรค ลงพื้นที่ Swab PCR เพิ่มอีก 463 ราย ผลรอบแรกออก 150 ราย ติดเชื้อโควิด 106 ราย รวม 127 ราย
ขณะที่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 213 รายทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม รวม 340 รายแล้ว โดยผู้ติดเชื้อโควิดค่ายฤทธิฦๅชัยทั้งหมด ได้ทยอยส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน โรงพยาบาลสนามข้าง รพ.หัวหิน และโรงพยาบาลสนามสวนสนประดิพัทธ์ แล้วส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว และจากการสอบสวนโรคคาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดติดเชื้อมาจากผู้ช่วยแม่ครัวชาวกะเหรี่ยงที่ทำอาหารเลี้ยงตำรวจในค่ายฝึกดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกรณีการเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ที่ศูนย์ฝึกรบพิเศษค่ายฤทธิฦๅชัย (ป่าละอู) ว่า ในฐานะที่ตนเป็นชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในช่วงนี้พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับมีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันของภาครัฐออกมา ทั้งการห้ามรวมกลุ่มไม่ให้เกิน 5 คน ห้ามการเรียนการสอนแบบปกติ ให้ไปเรียนออนไลน์แทน ซึ่งทางราชการสั่งห้ามชาวบ้านรวมกลุ่ม แต่กลับมีหน่วยงานของรัฐจัดการฝึก อบรม สัมมนา ประชุมกันเป็นกลุ่มอย่างต่อเนื่อง มีการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน อย่างการฝึกพิเศษของตำรวจนายสิบจบใหม่ที่ค่ายฤทธิฦๅชัยนี้ ตนสงสัยว่าเจ้าหน้าที่จะฝึกไปรบกับใคร สุดท้ายก็ติดเชื้อโควิดกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ จนส่งผลกระทบต่อชาวหัวหินเพิ่มอีก
นอกจากนี้ นพ.สุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการระบาดในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 โดยวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้งผู้คุมและผู้ต้องขังอีก 124 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 222 ราย ขณะนี้ได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ป่วยที่มีอาการแล้ว จากนี้อีกประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถประเมินแนวโน้มว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่
โดยได้เตรียมสถานที่บริเวณศูนย์ฝึกอบรมมวลชนสมานมิตร ถนนสวนสน-อ่าวน้อย ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำผู้ต้องขังบางส่วนไปกักตัวดูอาการ แก้ปัญหาความแออัดภายในเรือนจำ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมสถานที่ภายในศูนย์ฝึกฯ ให้มีความพร้อมรองรับผู้ป่วยกลุ่มพิเศษดังกล่าว