กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน การฉีดวัคซีนไขว้มีความปลอดภัยและมีระดับภูมิคุ้มกันสูง แถมช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยหนักหรือการเสียชีวิตได้ และย้ำขอให้ทุกกลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนโดยเร็ว
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ระบุว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,417 ราย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวาน แต่ถ้ารักษาระดับนี้ได้ต่อไป สถานการณ์ก็จะค่อยๆดีขึ้นเหมือนในต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากกทม.และปริมณฑล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม.เผยภาพ "รถฉีดวัคซีนถึงบ้าน" เข้าถึงสถานที่เสี่ยง เริ่มสัปดาห์หน้า
อย. เผยยินดี "ไฟเซอร์" ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนแบบเต็มรูปแบบ แทนใช้ฉุกเฉิน
สธ. ยัน การฉีดวัคซีนแบบไขว้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบปมฉีดวัคซีนพลาด
ส่วนผลการฉีดวัคซีนไขว้ที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า คือ
ส่วนประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขจะมีการพิจารณา การกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้ในรอบถัดไป
ภาพรวมการส่งมอบวัคซีนครึ่งหลังของปีนี้เราอาจจะได้วัคซีนเพิ่มอีก 40-45 ล้านโดส ซึ่งทางบริษัทแอสตร้าฯจะเร่งผลิตวัคซีนส่งมอบภายในปีนี้ให้ได้ 61 ล้านโดส
ส่วนสูตรวัคซีนที่มีการปรับจะมีการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มอายุ 18ขึ้นไป / กลุ่มผู้สูงอายุ / กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง / กลุ่มหญิงตั้งครรภ์
ปรับวัคซีน 2 สูตร
1. Sinovac เข็มที่ 1 AstraZeneca เข็มที่ 2 (ห่าง 3 สัปดาห์)
2. AstraZeneca 2 เข็ม (ห่าง 12 สัปดาห์) **บางกรณี**
กลุ่มเด็กและวัยรุ่น อายุ 12-18 ปี ที่มี 7 โรคเรื้อรัง / กลุ่มหญิงตั้งครรภ์
1. Pfizer 2 เข็ม (ห่าง 3 สัปดาห์)
กลุ่มเป้าหมาย / บุคลากรทางการแพทย์ / สาธารณสุขด่านหน้า
1. หาก Sinovac หรือ Sinopharm ครบ 2 เข็มแล้ว บูสต์ด้วย Pfizer หรือ AstraZeneca 1 เข็ม
2. หาก Sinovac / Sinopharm / AstraZeneca 1 เข็ม ให้ Pfizer เข็มที่ 2
3. ให้ Sinovac เข็มที่ 1 AstraZeneca เข็มที่ 2 (ห่าง 3 สัปดาห์)
4. ให้ PfiZer 2 เข็ม (ห่าง 3 สัปดาห์)
5. ให้ AstraZeneca 2 เข็ม (ห่าง 12 สัปดาห์)
การกระจายวัคซีนที่ผ่านมา ส่วนของวัคซีนไฟเซอร์จะมุ่งเน้น 13 จังหวัดสีแดงเข้ม รอบต่อไปที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติม30 ล้าน ส่วนวัคซีนซิโนแวค 12 ล้านรวมกับวัคซีนแอสตร้าฯ นำมาฉีดวัคซีนสูตรไขว้ให้กับประชาชนได้พอดี