ทบทวนความทรงจำ ตั๋วช้างคืออะไร ? ประเด็นที่รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล เคยเปิดและอธิบายขยายความไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ตั๋วช้าง ประเด็นที่ถูกเปิด ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
กลับมาเป็นคำถามดังกระหึ่มอีกครั้ง สำหรับประเด็นตั๋วช้าง หรือตั๋วตำรวจ โดยประเด็นนี้เคยเป็นกระแสข่าวที่ได้รับความสนใจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนเงียบหายไป และไม่ได้มีการชี้แจงจากนายกฯ รวมถึงผู้ที่ถูกพาดพิง
ซึ่งประเด็นนี้เกิดขึ้นระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว รวมถึงการโยกย้ายตำแหน่งโดยไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รังสิมันต์ โรม อธิบาย ตั๋วช้างคืออะไร ? หลังถูกห้ามพูดระหว่างอภิปราย
ตม.สั่งทุกด่านทั่วประเทศเฝ้าระวัง ผู้กำกับโจ้ ตรวจประวัติเดินทางย้อนหลัง
เปิด 3 ข้อหาหนัก "ผู้กำกับโจ้"และลูกน้อง จเรตำรวจเผย จับกุมได้ 4 หลบหนี 3
ถูกห้ามพูดในสภา จึงต้องมาอภิปราย “ตั๋วช้าง” นอกสภา
แต่ประธานสภา ไม่อนุญาตให้พูดเรื่องตั๋วช้าง รังสิมันต์ โรม จึงออกมาอภิปรายนอกสภา โดยได้ยกตัวอย่างถึงนายตำรวจสองนาย ที่ได้กล่าวไปในทิศทางเดียวกัน ถึงเรื่องตั๋วช้าง ที่ช่วยให้การย้ายตำแหน่งผ่านอย่างราบรื่นและด้วยราคาที่ถูกลง จาก 8 ล้าน อาจจะเหลือแค่ 4 ล้าน เพราะเกรงใจ หรือ กลัวผิดใจกันกับผู้ที่ออกตั๋ว
ส่วนนายตำรวจอีกนายได้ตัดพ้อลงเฟซบุ๊กว่า “ทำดี ไม่มีผล มีนาย มีเงิน มีตั๋ว ท่านจะได้ทุกอย่าง” โดยในเอกสารที่พรรคก้าวไกลเปิดเผยนั้นระบุว่า มีตำรวจ 20 นายที่ได้รับการเอื้อประโยชน์จากตั๋วช้างดังกล่าว
ตั๋วช้าง กับคดีสะเทือนขวัญ รีดเงินผู้ต้องหาจนดับคาโรงพัก
ความคืบหน้าล่าสุด นายรังสิมันต์ได้โพสต์ถึงเรื่องตั๋วช้างผ่านเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม จากกรณีผู้กำกับโจ้ และพวก ถูกกล่าวหาว่า รีดเงินจากผู้ต้องหา จำนวน 2 ล้านบาท จนผู้ต้องหาเสียชีวิต โดยมีรายละเอียดดังนี้
“ประเด็นที่สั่นสะเทือนสังคมไทยที่สุดประเด็นหนึ่ง ณ เวลานี้ คือการกระทำของตำรวจต่อประชาชน ทั้งผู้ชุมนุมที่ถูกทำร้าย สลายการชุมนุม จนเกิดเป็นวิกฤตศรัทธาต่อวงการตำรวจอย่างหนัก
“และนี่ยังผ่านไปเพียงครึ่งปี ที่ผมได้ทำการอภิปรายกรณีตั๋วช้าง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่ผ่านมา เพื่อชี้ให้เห็นว่า ในวงการตำรวจมีการใช้เส้นสาย ระบบตั๋ว และเครือข่าย...
“ผลที่ตามมาหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่มีการพยายามชี้แจงต่อสังคม แก้ปัญหาระบบตั๋ว หรือจัดการอะไรทั้งสิ้น ทำราวกับว่าสิ่งที่ประชาชนรู้กันไปทั่วแล้วนี้ไม่อยู่ในสารบบความคิดหรือสนใจของตำรวจที่เส้นใหญ่ จนไม่มีใครกล้าไปตรวจสอบอะไรต่อ
“จนเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร จังหวัดนครสวรรค์ ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการรีดไถและซ้อมผู้ต้องหาที่จับกุมได้จนเสียชีวิต หลักจากมีความพยายามไถเงิน 2 ล้านบาท ใช้ถุงคลุมศีรษะจนผู้ต้องหาขาดใจตาย แล้วไปพยายามปิดปากครอบครัวผู้เสียชีวิต สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ.ลบวีดีโอกล้องวงจรปิด แล้วมาอ้างต่อสาธารณะว่าผู้ต้องหาเสพยาเกินขนาด
“จนสุดท้าย ผมก็ได้เห็นคลิปวีดีโอสองชิ้นที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจนว่า ผู้กำกับคนดี... ที่อ้างตัวว่าสนิทสนมกับ พลตำรวจโท ต. ผู้กว้างขวางแห่งวงการตำรวจที่ผมเอ่ยถึงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ผ่านมา มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ซ้อมฆ่าคนและอำพรางคดีหน้าตาเฉย ราวกับว่าชีวิตคนเป็นผักปลา...
“สุดท้ายก็แค่ถูกสั่งย้าย (ล่าสุดถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน) จากผลของการฆ่าคนตายและพยายามอำพรางคดี น่าเหลือเชื่อจริงๆนะครับ การเป็นตำรวจที่มีเส้นสายในระบบเครือข่ายอะไรแบบนี้ได้ จะทำอะไรก็คงสะดวกสบายไปหมดจริงๆ
“วงการตำรวจเองก็ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้แล้วครับ รวมไปถึงหัวเรือใหญ่ทั้งพลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตรที่นั่งหัวโต๊ะกรรมการตำรวจ ที่จะจริงจังแค่ไหนกับการดำเนินการต่อกับกรณีที่เกิดขึ้น...”