ดีอีเอสเพิ่มข้อบังคับ Clubhouse และ Telegram ต้องเพิ่มการจัดเก็บข้อมูลระบุตัวตน โดยต้องเก็บข้อมูลมากกว่าเดิม ส่วนร้านต่างๆ ที่ให้บริการเน็ตฟรี ต้องตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเก็บข้อมูล
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ออกประกาศกฏหมายลูกของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เรื่อง หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจลทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ. 2564 ลงราชกิจจานุเบกษา มีข้อกำหนดเพิ่มเติมหลายเรื่อง และแบ่งแยกประเภทผู้ให้บริการรูปแบบใหม่ๆ อย่าง Clubhouse และ Telegram ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ประกาศ สายด่วนโควิด โทรฟรี ตั้งแต่พรุ่งนี้
กสทช.รับ สายด่วนหาเตียง 1668 ไม่ฟรี เร่ง ดีอีเอส ทำเรื่องยกเว้นเก็บค่าโทร
ดีอีเอส พบ คนไทยแชร์ข่าวปลอมมากกว่า 20 ล้านคน หวั่นตกเป็นเหยื่อ
ประกาศฉบับนี้เป็นการอัปเดตจากประกาศฉบับเดิมเมื่อปี 2007 ที่ออกตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ระบุให้ผู้ให้บริการต้องเก็บล็อกที่สามารถระบุรายละเอียดผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้ (Identification and Authentication) เช่น ลักษณะการใช้บริการ Proxy Server, Network Address Translation (NAT) หรือ Proxy Cache หรือ Cache Engine หรือบริการ Free Internet หรือ Wi-Fi Hotspot มาแต่แรก แต่ประกาศฉบับใหม่นี้เพิ่ม มาตรฐานการเก็บข้อมูลจราจรเข้ามาในภาคผนวก ข. มีเงื่อนไขหลายประการเพิ่มเติม เช่น รายละเอียดการใช้บริการในระบบคอมพิวเตอร์, ข้อมูลตัวอุปกรณ์ที่เข้าใช้งาน (system ID), รายงานการล็อกอินต้องระบุถึงการล็อกอินที่ไม่สำเร็จ, ไปจนถึงรายละเอียดธุรกรรมที่กำลังใช้งาน
ประกาศฉบับนี้ยังเพิ่มหมวดหมู่ผู้ให้บริการเพิ่มเติมเข้ามาอีกสองหมวด ได้แก่ บริการสื่อสารและแอปสโตร์ ที่รวมถึง เช่น App Store, Google Play, Clubhouse และ Telegram โดยเรียกว่า "ผู้ให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, แอปพลิเคชัน ที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลถึงกันได้ (Online Application Store)" ในขณะที่แพลตฟอร์มหลักอย่าง Facebook, YouTube, WhatsApp, LINE, Instagram ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ "ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์รวมถึงผู้ให้บริการในฐานะสื่อกลางในการรับส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะมีระบบบอกรับสมาชิกหรือไม่ก็ตาม"
สำหรับกรณีที่เป็นผู้ให้บริการร้านอินเทอร์เน็ตก็ต้องจัดเก็บข้อมูล จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดและบันทึกรายละเอียดการเข้าใช้งานของผู้ใช้บริการหรือลูกค้าในร้านของตนที่สามารถระบุตัวตนได้ และทำบันทึกที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการของลูกค้าของตนในแต่ละวันเพื่อให้ใช้เป็นหลักฐานที่ตรวจสอบได้ในภายหลัง