นายกฯ หารือ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เน้นย้ำยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ พร้อมขอบคุณสนับสนุนเงินด้านสาธารณสุข 2.8 ล้านดอลลาร์ ให้ไทย
วันที่ 18 สิงหาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือผ่านทางโทรศัพท์กับ นายสกอตต์ มอร์ริสัน (The Honourable Scott Morrison) นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย ณ ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ตนรู้สึกยินดีที่ได้เป็นเกียรติในการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลียอีกครั้งหนึ่ง โดยได้มีการร่วมหารือความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ไทย - ออสเตรเลียซึ่งได้มีโอกาสลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนถึงความแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์ระหว่างกัน แม้จะพบกับสถานการณ์ความยากลำบากโรคโควิด - 19 ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสวางรากฐานเพิ่มพูนความร่วมมือสู่อนาคตในสาขาต่างๆ ร่วมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
• ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดีบิ๊กตู่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมม็อบ ชี้ นายกฯ มีอำนาจ
• "นายกฯ" ตั้ง "เสรี วงษ์มณฑา" บริหารศูนย์สื่อสาร วางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค.
• นายกฯ ห่วง ข่าวปลอมระบาด สั่งทุกหน่วยงานมอนิเตอร์ หากพบต้องเร่งแจงโดยเร็ว
พร้อมกับยืนยันว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการยกระดับความสัมพันธ์กับไทยภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ ตลอดจนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย สู่ความเป็นหุ้นส่วนแบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) ท่ามกลางความท้าทายที่ทั่วโลกเผชิญ ซึ่งรวมถึงประเด็นอื่นๆ ได้แก่ ความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โลกดิจิทัล สถานการณ์หลังโควิด-19 และ การเดินทางในยุค New Normal
โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมออสเตรเลีย ที่ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนแก่นานาประเทศ ทั้งในกรอบ Regional Vaccine Access and Health Security Initiative กรอบ QUAD Vaccine Partnership กรอบการประชุมผู้นำ G7 ตลอดจนความร่วมมือในกรอบอาเซียน-ออสเตรเลีย รวมถึง ขอบคุณการสนับสนุนเงินด้านสาธารณสุขจำนวน 2.8 ล้านดอลลาร์ ของออสเตรเลียให้แก่ไทย สะท้อนถึงบทบาทที่สร้างสรรค์ของออสเตรเลียในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ และได้ขอให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียพิจารณาให้ความร่วมมือด้านวัคซีนแก่ไทยในรูปแบบที่มีความพร้อมและเหมาะสม ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้กล่าวว่ายินดีที่จะสนับสนุนความช่วยเหลือด้านวัคซีนซึ่งจะได้หารือกันต่อไปในรูปแบบที่เหมาะสมท่ามกลางความท้าทายที่เผชิญร่วมกัน
สำหรับ สถานการณ์ในเมียนมา ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันโดยมีความเห็นพ้องที่จะต้องให้ความร่วมมือด้านมนุษยธรรมกับเมียนมาเป็นอันดับต้น นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียสนับสนุนการปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนเรื่องเมียนมา จะเดินทางเยือนเมียนมาเพื่อสนับสนุนให้ฝ่ายต่างๆ หันหน้ามาพูดคุยและแสวงหาทางออกโดยสันติโดยเร็วที่สุด
โดยในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย พิจารณาข้อกำหนดให้นักศึกษาไทยที่ศึกษาที่ออสเตรเลียได้เดินทางกลับเข้าไปศึกษาต่อในโอกาสแรก