รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยความชุกของการติดเชื้อโควิด-19 ที่ตรวจพบนี้ถือว่าสูงมาก และย้ำเตือนให้เราทุกคนต้องตระหนักถึงสถานการณ์การระบาดขณะนี้ว่า "วิกฤต"
วันนี้ (5 ส.ค. 64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
ตอนนี้ไทยมีจำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤตสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก
อันดับที่ 3 ของเอเชีย
และเป็นอันดับที่ 1 ในอาเซียน
ดูข้อมูลจากที่คุณสรยุทธนำเสนอทางเพจ พบว่า ณ ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อสูงมากถึงเกือบ 24%
นั่นคือตรวจประมาณ 4 คนจะเจอว่าติดเชื้อ 1 คน
ความชุกของการติดเชื้อโควิด-19 ที่ตรวจพบนี้ถือว่าสูงมาก และย้ำเตือนให้เราทุกคนต้องตระหนักถึงสถานการณ์การระบาดขณะนี้ว่า "วิกฤต"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "หมอธีระ" จวกนโยบายควบคุมโควิดไม่มีประสิทธิภาพ หลังพบติดเชื้อทะลุ 2 หมื่น
• "หมอธีระ" แนะใช้มาตรการเข้มข้น ตัดวงจรการระบาดของโควิด-19
• "หมอธีระ" แนะล็อกดาวน์ทั้งประเทศ 1 เดือน ปูพรมตรวจอย่างครอบคลุม-ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ที่ควรพิจารณาดำเนินการในสถานการณ์เช่นนี้ คือ
หนึ่ง จำเป็นต้องขยายศักยภาพของการตรวจคัดกรองโรคให้มากกว่าที่ทำมา อย่างน้อยอีก 2-3 เท่า คือตรวจให้ได้ 150,000-200,000 ครั้งต่อวัน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อแพร่เชื้อของคนในสังคม
ทั้งนี้เชื้อสายพันธุ์เดลต้ามีสมรรถนะในการแพร่เร็วกว่าอัลฟ่าถึง 55% และคนติดเชื้อ 1 คนจะแพร่ให้ผู้อื่นได้ราว 8-9 คนเทียบเท่ากับโรคสุกใส ดังนั้นการตรวจให้มาก เร็ว และครอบคลุมพื้นที่ จึงเป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้ศึกนี้
สอง วัดและโรงเรียนทั่วประเทศ จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ในฐานะศูนย์พักพิงสำหรับผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพราะการทำ home isolation และ community isolation ในลักษณะอื่นนั้นแม้จะดำเนินไปได้ แต่การบริการหน่วยย่อยระดับครัวเรือนนั้นจะไม่ทางทำได้อย่างทั่วถึงหรือเพียงพอ และมีโอกาสที่จะติดเชื้อแพร่เชื้อในครัวเรือนไปเรื่อยๆ ดังนั้นการทำให้เป็นยูนิตที่ใหญ่ขึ้นสำหรับกลุ่มที่ไม่มีอาการนั้นจะมีความคุ้มค่าและเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในระยะหลายเดือนถัดจากนี้
สาม ควรเตรียมประชาชนในเรื่องเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน ลดการนำเข้าสิ่งฟุ่มเฟือย เน้นการใช้ของภายในประเทศ เพราะแนวโน้มการระบาดลักษณะที่กำลังเผชิญนี้มีความยาวนาน
สี่ ระบบสาธารณสุขต้องวางแผนรับมือกับเรื่องผู้ป่วยที่มีอาการคงค้างระยะยาว หรือที่เรียกว่า COVID Long Hauler/Chronic COVID Syndrome ซึ่งประเทศต่างๆ ที่ผ่านการระบาดหนักมาก่อน มีผู้ป่วยที่พบภาวะดังกล่าวมากได้ถึงราว 30-40%
ขอให้เรามีกำลังใจในการช่วยกันประคับประคองกันและกัน ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด มุ่งเป้าให้ตนเองและครอบครัวไม่ติดเชื้อ
ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก
ด้วยรักและห่วงใย