จับตาดูให้ชัด! พรุ่งนี้มีประชุม ศบค. คาด อาจมีการขยายกรอบการล็อกดาวน์ ถึงการปรับพื้นที่สีแดงเข้ม หลังครบ 14 วันล็อกดาวน์ แต่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิดยังพุ่งไม่หยุด
พรุ่งนี้ (1 ส.ค. 64) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ผอ.ศบค. เตรียมเรียกประชุม ศบค. ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในเวลา 13.30 น.
คาดว่าวาระการประชุมเป็นการติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักและใส่เครื่องช่วยหายใจที่สูงขึ้น แม้จะมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด จะครบ 14 วันแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้น จึงต้องจับตาว่า จะมีการพิจารณาให้คงมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ที่มีความรุนแรงของการระบาดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค. เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งรายวัน ยอดผู้เสียชีวิตสูงลิ่ว
ศบค.เผยวันนี้พบ 10 คลัสเตอร์ใหม่ ยอดผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจทะลุพันราย
ศบค.เร่งจัดไฟเซอร์ได้รับบริจาค ฉีดให้ด่านหน้า พื้นที่สีแดงเข้ม ยังอ่วม!
พร้อมกับน่าจะมีการพิจารณาเรื่องการกระจายวัคซีนในเดือนสิงหาคม หลังจากที่ในเดือนกรกฎาคม มีการปูพรมฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง รวมไปถึงสตรีมีครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
ขณะเดียวกันคาดว่า ที่ประชุม ศบค.จะยังมีการหารือกันถึงการปรับพื้นที่จังหวัดตามการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด ถายหลังพบว่าหลายจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียเหนือที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จากการเดินทางมทจากพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อกลับภูมิลำเนา
นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์รายงานจากหน่วยงานด้านความมั่นในการกระทำความผิดลักลอยเจ้าเมืองผิดกฎหมาย เนื่องจากในก.ค.ที่ผ่านมาจับกุมได้กว่า 4,300 คน นอกจากนี้ จากการประเมินสถานการณ์ในเมียนมา ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ความรุนแรงที่ยังมีอยู่ และผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อสะสมมากขึ้นต่อเนื่อง มีความน่าเป็นกังวลและต้องเฝ้าระวังอย่างมากกับแนวชายแดนติดกันที่ยาวถึง 2,401 กม. โดยขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคง ได้หารือร่วมเสริมกำลังและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ จังหวัดชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำมากขึ้น