ดร.แอนโธนี เฟาซี หมอใหญ่สหรัฐฯ ชี้ ประเทศกำลังเดินไปผิดทาง หลังโควิด19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะในรัฐตอนใต้ที่มีการฉีดวัคซีนที่ต่ำทำให้โควิดระบาดในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากโควิดสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งการติดเชื้อในระดับสูงเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำลังพิจารณาแก้ไขคำแนะนำเรื่องหน้ากากสำหรับชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนที่เผยว่าไม่ต้องใส่แล้ว อาจต้องกลับมาสวมหน้ากากอีกครั้งเพื่อควบคุมการระบาด รวมไปถึงการศึกษาวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับกลุ่มเปราะบาง
สถานการณ์โควิด19 ในสหรัฐฯ กำลังกลายเป็น "การระบาดใหญ่ในหมู่ผู้ไม่ได้รับวัคซีน" ดร.เฟาซี เผย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สหรัฐฯ โควิด19 ระบาดหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
แม้ปัจจุบันจะมีประชากรมากกว่า 162.7 ล้านคน หรือ 49% ของประชากรทั้งหมด ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เป็นผู้นำด้านการฉีดวัคซีนจนถึงเมื่อเดือนเมษายน หลังจากนั้นอัตราการฉีดวัคซีนเริ่มลดลง เนื่องจากรัฐทางใต้มีแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีน อาทิ ฟลอริดา เท็กซัส และมิสซูรี ส่งผลให้ยอดติดเชื้อรายวันกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ยอดติดเชื้อเคยลดลงไปเมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน
การระบาดโควิด19 ระลอกใหม่ ได้เพิ่มยอดติดเชื้อสะสมของประเทศเป็นมากกว่า 34 ล้านรายและผู้เสียชีวิต 610,000 ราย
วิเวก เมอร์ธี ศัลยแพทย์ทั่วไปของสหรัฐฯ เผยว่า การเสียชีวิตจากโควิด19 ในสหรัฐฯ กว่า 99.5% เกิดขึ้นในหมู่คนที่ไม่ได้รับวัคซีน
ดร.เฟาซี กล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่น ต้องสนับสนุนให้ประชาชนออกมารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำจำเป็นต้องรีบดำเนินการมากยิ่งขึ้น