ห้ามปชช.รัศมี 5 กม. โรงงานกิ่งแก้ว เข้าบ้าน พบสารสไตรีน 1,600 ตัน ตกค้างในถัง

 ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ยังต้องควบคุมอุณภูมิ ฉีดน้ำยาโฟม ทั้งภาคพื้น เเละการปฏิบัติการโปรยน้ำยาโฟม ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อควบคุมสถานการณ์ จุดที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่ให้เกิดการปะทุ ซึ่งจุดบริเวณนั้นเป็นจุดที่มีสารเคมี ซึมอยู่ใต้ดิน โดยเจ้าหน้าที่ต่อท่อยาว 3 เมตร เพื่อฉีดน้ำยาโฟมควบคุมพื้นผิว หน้าสารเคมีไว้ไม่ให้เกิดประกายไฟ โดยเฉพาะถังบรรจุสารเคมีที่ยังมีสารสไตรีนตกค้าง 

  ขณะที่ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า แม้ว่าจะควบคุมเพลิงได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนที่ อาศัยอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร กลับเข้าบ้านเรือน ต้องรอประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความปลอดภัย คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน จะอนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าที่พักของตนเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ทำความเข้าใจ ค่าความเข้มข้นสารสไตรีน ในพื้นที่ไฟไหม้ โรงงานกิ่งแก้ว

• สังเกตลักษณะ สารสไตรีน เคมีอันตรายจากเหตุไฟไหม้ ถ้าอยู่ใกล้ต้องทำยังไง?

• โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ส่งผล "สารสไตรีน" ภัยร้ายใกล้ตัวเรา

 นาย วีระกิตติ์ รันททกิจธนวัชร์ รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ระบุว่าขณะนี้ ยังพบสารสไตรีน ตกค้างอยู่ในถัง ประมาณ 1,600 ตัน และปกติหากพื้นที่ใดมีโรงงานอุตสากรรมตั้งอยู่จะไม่อนุญาตให้มีบ้านเรือนบริเวณใกล้เคียง จึงอาจต้องพิจารณาเกี่ยวกับการบริหารจัดการซึ่งหากย้อนไปปี 2532 บ้านเรือนสมัยนั้นยังไม่ได้ใกล้ขนาดนี้ เพราะพื้นที่ยังไม่มีความเจริญ เมื่อมีการเจริญเติบโตเข้ามามากขึ้นจึงเป็นต้องมองปัญหาเกี่ยวกับผังเมืองต่อไป ส่วนซากปรักหักพังโครงสร้าง ต้องเเจ้งให้เป็นไปตาม พรบ.วัตถุอันตราย ในเรื่องการจัดการกากอุตสาหกรรม เพระอาจจะมีการปนเปื้อนขึ้นมาได้

 ส่วนในเรื่องการกำกับดูแลตามขั้นตอนการขออนุญาต มีขั้นตอนในส่วนนี้อยู่แล้วซึ่งโรงงานแห่งนี้อยู่ในลำดับที่ 44 และต้องมีการประเมินความเสี่ยง โดยการดูแลทั่วไปจะเป็นการตรวจสอบของทางจังหวัด ซึ่งจังหวัดมีการร้องขอทางกรมจะลงมาช่วย โดยปกติแล้วการประเมินความเสี่ยงของพื้นที่จะดำเนินการทุก 5 ปี 

“คาดว่ามีสารตกค้างอยู่ ก่อให้เกิดความร้อนได้ โรงงานกำลังทำให้ลดความร้อน จะขนออกไป กำจัดอย่างถูกวิธี สารเคมีที่ยังตกค้างอยู่ในถัง เป็นสารสไตรีน"