เจ้าของร้านกอดลูกน้องร้องไห้ จำใจต้องบอกเลิกจ้าง หลังเจอประกาศห้ามนั่งทานในร้าน 30 วัน ลั่น ไม่ใช่ร้านอาหารทุกร้านขายเดลิเวอรี่แล้วจะรอด เห็นน้ำตาของประชาชนบ้างไหม
จากกรณี คำสั่ง ศบค. ที่ 6/2564 เรื่องพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งกำหนดให้ ห้ามนั่งทานอาหารในร้านอาหาร อีกครั้งหลังจากเพิ่งผ่อนคลายได้ไม่นาน ทำให้ร้านอาหารออกมาสะท้อนปัญหาจำนวนมาก เนื่องจากมีการแจ้งล้วงหน้าเพียง 1 วัน แต่ร้านอาหารมีการสต็อกของล่วงหน้า 3-7 วัน
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tuii Klaewthanong ได้ออกมาโพสต์คลิปบีบหัวใจใครหลายคน โดยเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ตนเองเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง กำลังกอดลาพนักงานในร้าน ซึ่งตนเองเรียกว่า แม่ หลังจากที่ต้องเลิกจ้าง เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายที่ร้านไม่ไหวแล้ว โดยระบุข้อความว่า...
ภาพกล้องวงจรปิดวันที่ 27 มิถุยายน หลังเก็บร้านเสร็จ เตรียมตัวจะแยกย้ายกลับบ้าน
ซึ่งวันต่อมาคือวันที่ 28 มิถุนา เป็นวันที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมโรค ห้ามร้านอาหารนั่งทานที่ร้าน ให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น ......
ตุ้ย : แม่วันนี้หนูให้แม่ 500 บาทนะ
แม่ยิ้ม : ไม่เอาลูก (วันนี้ไม่ได้ขายดี)
ตุ้ย : รับไปเถอะแม่ ตุ้ยขอโทษ ที่ตุ้ยต้องพักงานแม่เป็น เวลา 30 วันนะ
แม่ยิ้ม : แม่เข้าใจ ไว้ร้านเปิดโทรหาแม่นะลูก ระหว่างนี้แม่จะหาอะไรทำเล็กๆน้อยๆไปก่อน
ตุ้ย : (กู... ผู้เป็นเจ้าของร้าน ที่ต้องบอกคนในทีมให้พักงาน กูกลับร้องไห้เอง เหมือนโดนเลิกจ้างเอง) แม่... ตุ้ยขอโทษ ตุ้ยแบกไม่ไหว มันหลายรอบแล้ว ตุ้ยขอโทษนะแม่ ไว้ร้านเปิดถ้าแม่ยังไม่ได้งาน แม่มาทำงานกับหนูนะ
แม่ยิ้ม : ได้ลูก สู้นะลูก สู้ต่อไปนะ อย่าท้อ ต้องสู้!
เราไม่อาจรู้ได้ว่า 30 วันหลังจากนี้ แม่จะได้งานใหม่และจะกลับมาทำงานกับเราไหม หรือจะยังรอเวลามาทำงานกับเราอีก แต่ความรู้สึกที่มีตอนนี้ ในสมองแม่งมีแต่ปัญหา มันช่างเหนื่อยล้าสำหรับตุ้ยเหลือเกิน
บางทีการร้องไห้ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่มันเป็นการระบายความอัดอั้นที่อยู่ข้างใน โตแล้วก็ต้องร้องไห้บ้าง แต่ตุ้ยร้องไห้แทบทุกครั้งที่มีปัญหา เพราะตุ้ยไม่ได้เข้มแข็ง แต่ตุ้ยก็พร้อมสู้และแก้ปัญหา
หลังจากนี้ 30 วัน มาตรการที่ใช้ควบคุมโรค ขอให้ได้ผลนะ ไม่งั้นผู้ประกอบการ หรือไม่ว่าอาชีพไหนก็ตาย เราไม่เคยได้รับการเยียวยาอะไรจากภาครัฐ มีแต่เสียนั้น เสียนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรพัฒนาเลย
#ไม่ใช่ร้านอาหารทุกร้านขายเดลิเวอรี่แล้วจะรอด
#เห็นน้ำตาของประชาชนบ้างไหม