อ.เจษฎา ตอบข้อสงสัย "วัตถุลึกลับเหนือท้องฟ้า" จังหวัดกระบี่ หลังโซเชียลสงสัยว่าเป็น UFO ส่วนตัวคิดว่าเป็น"บอลลูนตรวจอากาศ" ผู้เชี่ยงชาญเผย ช่วงที่พบเห็นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่สถานีตรวจวัดอากาศปล่อยบอลลูนตรวจอากาศ
วันที่ 19 มิ.ย. 2564 รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุถึงกรณีมีคนพบวัตถุลึกลับที่หลายคนต่างเชื่อว่าเป็น UFO ลอยเหนือท้องฟ้าที่จังหวัดกระบี่
โดย รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ให้ความเห็นว่า เมื่อวานนักข่าวโทรมาขอให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่มีคนพบ UFO ที่จังหวัดกระบี่ ผมก็คิดว่าเป็น "บอลลูนตรวจอากาศ"
จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่กลุ่มเล่นเครื่องบินเล็กบังคับในจังหวัดกระบี่ได้บันทึกไว้ได้เมื่อเย็นวันที่ 17 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา บริเวณลานกิจกรรมด้านข้างสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ โดยสามารถถ่ายภาพของวัตถุบางอย่างที่อยู่บนท้องฟ้าได้ ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนตัวสูงขึ้นและหายไปในเมฆ ซึ่งผู้คนในโลกโซเชียลที่ได้ดูคลิปต่างประหลาดใจและพากันเดาว่าใช่ UFO หรือไม่
ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลคล้ายกันคือ วัตถุดังกล่าวสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน มีขนาดใหญ่ประมาณรถบัส เป็นวัตถุสีดำบินอยู่สูงจากพื้นคาดว่าประมาณ 1 กิโลเมตร และลอยผ่านไปแบบนิ่งๆไม่มีเสียง ก่อนจะเริ่มหายไปในอากาศ โดยทั้งสองคนยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นโดรน หรืออากาศยานอื่น เพราะเล่นเครื่องเล่นพวกนี้อยู่ประจำ ทำให้แยกออกว่าใช่หรือไม่
จากการสอบถาม พันเอกนายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา ประธานมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน และนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า จากคลิปไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นอะไร แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น UFO มนุษย์ต่างดาว เพราะพิจารณาจากความเร็วและรูปแบบการเคลื่อนที่ สามารถยืนยันได้ว่าไม่ใช่เครื่องบินและโดรนอย่างแน่นอน
ด้านนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คาดว่าเป็นไปได้ทั้งบอลลูนตรวจอากาศ และเฮลิคอปเตอร์ เพราะเคลื่อนที่ตามทิศทางลม แต่ให้น้ำหนักไปที่บอลลูนตรวจอากาศมากกว่า เพราะขนาดความเร็วใกล้เคียงกับบอลลูนตรวจอากาศ ประมาณ 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมไปถึงระยะทางจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ไปถึงเทศบาลเมืองกระบี่ ประมาณ 10-15 กิโลเมตร เป็นระยะที่ไม่ไกลที่บอลลูนตรวจอากาศสามารถไปได้ อีกทั้งช่วงเวลาที่พบเห็นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเวลาที่สถานีตรวจวัดอากาศปล่อยบอลลูนตรวจอากาศ ความสูงที่คาดคะเนได้ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นระดับเดียวกับบอลลูนตรวจอากาศ
"แต่จากการคาดเดาดูแล้ว เครื่องบินจะบินเสมอ บินตรง แต่ถ้าเป็นยานอวกาศก็จะบินบ้าง หยุดบ้าง เดินบ้าง เปลี่ยนทิศทางบ้าง ลักษณะเช่นนี้เราสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัตถุบินจานบินของต่างดาวมากกว่า ปัจจุบันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง เพราะในอวกาศมีดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลก ทั้งอุณหภูมิและดาวฤกษ์หลายดวง"