หนุ่ม เสกสรร ยอมรับคิดฆ่าตัวตาย หลังธุรกิจเจ๊ง ล้มละลายเป็นหนี้ 1,000 ล้าน

ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนาน สำหรับ "หนุ่ม เสกสรร" อตีตนักร้องนักแสดง ยุค 80 หรือที่รู้จักกันดีในนามของ หนุ่มเสก โดยล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดเผยเส้นทางบันเทิงกว่า 34 ปี

และประสบการณ์การทำธุรกิจจนล้มละลาย เป็นหนี้ 1,000 ล้าน อีกทั้งเคยเครียดจัด ถึงขั้นคิดยิงปืนฆ่าตัวตายมาแล้ว ซึ่ง หนุ่ม เสกสรร ได้เผยผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ระบุว่า

อยู่ในวงการ 34 ปี?

"ประมาณ 34 ปี ตอนนั้นเข้ามาในเรื่องเกมโชว์ พอเล่นแล้วผมชนะได้แจ็คพ็อต ได้รถยนต์ เจ้าของบริษัทเห็น เล่นสนุก ร้องเพลงได้ไหม ตอนแรกให้เล่นละคร เรื่องเทวดาตกสวรรค์

แต่ช่วงที่ไปเล่นใหม่ ผมไม่ได้เทรนเลยว่าอารมณ์อย่างนี้ต้องพูดยังไง สุดท้ายเขาเปลี่ยนตัว จากนั้นเจ้าของบริษัทเหมือนสงสาร ถามว่าร้องเพลงได้ไหม ลองร้องให้ฟัง ตอนนั้นเขาเปิดค่ายเพลงคีตา พอดี ผมเลยได้เป็นศิลปินเบอร์แรกของคีตา"

ก่อนหน้านี้เป็นพ่อค้าขายผลไม้มาก่อน?

"จริงๆ แล้วเราเป็นเด็กที่บ้านมีสวนมะม่วง สวนมะพร้าว เวลามะม่วงออก เราก็เอามะม่วงมาตั้งขายที่ตลาด ใส่ถุงไปขายที่โรงเรียน"

พอออกอัลบั้มแรกประสบความสำเร็จเลย?

"ผมโชคดีได้นักแต่งเพลง นักดนตรี เนี๊ยบ เราลองเทสหลายหนมาก ผมโชคดีที่ผมร้องเพลงรักแล้วผมโดน ถ้าเราไปร้องเพลงเร็ว อาจจะไม่โดน แล้วก็ไม่ได้สัมภาษณ์แบบนี้เลย"

ไม่ได้สัมภาษณ์มานานแค่ไหน?

"ผมว่าอย่างน้อยก็หลายสิบปี คือจริงๆ ผมเป็นคนที่อาจจะมีโลกส่วนตัวนิดนึง เราคิดว่าคนอาจไม่สนใจเรื่องเรา เราก็เลยคิดว่าเดี๋ยวไปพูด แล้วบางคนอาจจะหมั่นไส้ เราก็ทำตัวปกติ"

ผันตัวเองมาทำธุรกิจ ได้ข่าวว่าลงทุนไป 600 ล้าน?

"ใช่ มันคือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ชื่อว่า คาสิโน มิวสิคสไตล์ สตูดิโอ มิวสิคสไตล์ มันจะมีดิสโก้เทค มีคาราโอเกะ 50 ห้อง มีผับ มีร้านอาหาร มีอะไรอยู่ในนั้น

ทั้งหมดประมาณ 10 ไร่ ตอนนี้ก็เป็นคอนโดหมดแล้ว คือผมเป็นศิลปินคนแรกที่บ้าดีเดือด เจอด่าก็เยอะ เราคิดอีกสไตล์นึงว่าศิลปินเราต้องหาอะไรทำ ให้มันงอกเงย"

ทำไมถึงเป็นธุรกิจด้านนี้?

"คิดว่าเราถนัด เราจะไม่ทำอะไรที่เราไม่ถนัด พอทำแล้วมันสนุกนะ ผมได้รู้จักกับนักดนตรี ศิลปิน ผมมีดิสโก้เทค ผมก็จ้างเขามาเล่นคอนเสิร์ต มันก็เป็นคอนเนคชั่นที่มันสานต่อกัน"

"ถามว่าประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ก็ดังมา 5 ปี พอเริ่ม 40 มันเป็นยุคฟองสบู่ จากค่าเงิน 25 บาทไป 50 บาท คือมันไม่ใช่ธุรกิจเราธุรกิจเดียว ธนาคารปิดเพียบ เราก็เหมือนกู้ธนาคารมา เราก็ล้มเป็นโดมิโน่"

ทำไมพี่หนุ่มถึงไปสนิทกับป๋าได้?

"ตอนสมัยเด็ก ผมเรียนอยู่ที่สามเสน วันเด็กผมเป็นตัวแทนโรงเรียนไปพบป๋าที่บ้าน พอผมโตขึ้น ผมได้เป็นนักร้อง และได้ไปที่หอสมุดแห่งชาติ ผมก็ไปคัดหนังสือพิมพ์ลงหน้า1 นะ ไปขอซีล็อกเขามา แล้วมาใส่กรอบ แล้วมาหาป๋า

บอกป๋าครับนี่ผมตอนเด็ก นี่ผมได้เป็นศิลปินแล้ว ผมจะมาร้องเพลงรับใช้ป๋า มันก็เริ่มผูกพัน ป๋าก็ดีใจ ตอนธุรกิจเจ๊ง ผมก็เซเหมือนกันนะ พอล้มไปปุ๊บผมเป็นหนี้ขึ้นมา 1,000

ผมคิดจะฆ่าตัวตาย หยิบปืนแล้ว ผมคิดว่าผมจะยิงทั้งบ้านเลย คือมันสุดๆ แล้วแต่ว่ามันชั่ววูบ ผมหยิบมาคิดว่าไปเลยมันจะได้จบหมด แต่เผอิญผมหันไปเห็นรูปป๋าที่แตะไหล่ผม"

วันนั้นพี่ได้คุยกับป๋าไหม?

"ก็โทรไปหาป๋า ก็บอกว่า เสก ไม่เป็นไร อายุเสก ยังน้อย ไปเริ่มต้นใหม่ จริงๆ ผมก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้เยอะๆ แต่อยากจะบอกให้มันเป็นอุทาหรณ์ คนเราทุกคนมันมีปัญหา แต่อยู่ที่สติ

ถ้าเรามีสติ ผมย้อนกลับมานะ วันนั้นถ้าเราทำไป มันดัง เพราะฆ่าตัวตาย ปิดชีวิตตัวเอง จบ เจ๊ง 1,000 ล้าน แต่ปัญหาที่ตามมามันก็จบวันนั้น แต่พอวันนี้เราย้อนกลับไป มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าทำ เราเข้าใจคนเวลาคนคิดสั้น ชั่วโมงนั้นแค่จับปืน ทุกอย่างมันสั่นหมด เพราะสติมันไม่มี"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ขอบคุณผู้กำกับฮอลลีวูด รอน ฮาเวิร์ด ที่ทำให้ฝันเป็นจริง

มดดำ คชาภา งานเข้า! โดนหมายเรียกจากตำรวจ เหตุพาดพิง ซาร่า คาซิงกินี

บอล เชิญยิ้ม โต้ปมเที่ยวผู้หญิง แพร่เชื้อโควิดมาติด น้าค่อม จนเสียชีวิต

ตอนนี้ทำยังไงกับหนี้?

"ตอนนั้นแบงก์ก็ฟ้องอะไรต่างๆ สุดท้ายหนี้สินก็เคลียร์ไปได้บางส่วน ส่วนที่เคลียร์ไม่ได้เขาก็ฟ้องล้มละลาย"

โดนยึดทรัพย์ด้วย?

"ทรัพย์มันก็ทรัพย์ในโครงการ อยากได้อะไรก็เอาไป ส่วนที่เหลือถ้ามันไม่พอเขาก็ฟ้องล้มละลายเรา ซึ่งผมอยากจะบอกว่าการล้มละลายด้วยการเป็นหนี้เยอะๆ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว

แต่ว่าไม่ได้สอนให้ไปล้มละลาย แต่เป็นการล้มจากวิกฤตให้ชีวิตมันดีขึ้น สมมติเราเป็นหนี้อยู่ 500 เราใช้ไม่ได้ เราล้มไปหนี้ก็เป็นศูนย์ แต่ในช่วงเป็นศูนย์เนี่ย เราสามารถไปทำอย่างอื่นได้ แต่เราทำนิติกรรมไม่ได้"

คำว่าบุคคลล้มละลายมันเป็นยังไงบ้าง?

"ล้มละลาย 1.เราไปทำนิติกรรมอะไรไม่ได้ อย่างเช่นไปกู้ธนาคารก็ไม่ได้ ไปผ่อนบ้าน ผ่อนรถไม่ได้หมดเลย ผมล้มละลาย ผมก็ไปทำงานอย่างอื่นได้ คือเลี้ยงตัวเองได้ เพียงแต่ว่าเราทำงานแบบเขาไม่ต้องมายึดเราอะ เราใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจาก 3 ปีเขาก็ปลด คุณก็จะมีชีวิตใหม่"

ช่วงที่มันแย่มากๆ มีแอบน้อยใจกับตัวเองไหม?

"จริงๆ ผมไม่เสียดายนะ เพราะว่ามันเป็นประสบการณ์ ตอนนั้นผมอายุประมาณ 30 ปี ผมจับเงิน 1,000 ล้าน แต่มันไม่ได้เกิดจากฝีมือเราเต็มๆ มันเกิดจากวิกฤต

ส่วนนึงผมทำธุรกิจที่มันสุ่มเสี่ยง อาจจะเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งมันมีระยะเวลาเมกมันนี่ อาจจะช็อตเทอม แต่มันมาประดังกัน มันทำให้เราไม่สามารถใช้หนี้ได้ เราต้องยอมรับความเป็นจริง"