เจ้าของร้านโกดังชาบู ร่ำไห้ ไลฟ์ระบายร้านไปต่อไม่ไหว ถามนายกฯมัวทำอะไรอยู่ ลั่น "สู้จนไม่รู้จะสู้อย่างไรแล้ว แต่คงสายเกินไปที่จะแก้ไขอะไรแล้ว ขอให้ร้านหนูเป็นร้านสุดท้าย"
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ขณะนี้ ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการคุมเข็มต่างๆให้เข้ากับสถานการณ์ ซึ่งได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบร้านอาหารและอีกหลายประเภท โดยระยะที่ผ่านมาร้านอาหารได้ทยอยปิดตัวลงเนื่องจากแบกรับภาระไม่ไหว จนล่าสุดได้เกิดกระแสดราม่าขึ้นมา หลังเจ้าของร้าน "โกดังชาบู" ไลฟ์ทั้งน้ำตาหลังจากที่สู้กับสถานการณ์ "โควิด" เป็นระยะเวลากว่าปีครึ่ง จนถึงตอนนี้ร้านจะไม่ไหวแล้ว โดยฝากข้อความไปถึงนายกรัฐมนตรี หรือหน่วยงานให้ช่วยเหลือ ขอให้ร้านตนเป็นร้านสุดท้ายที่จะปิดตัวลง ไม่อยากให้ร้านไหนต้องมาเจอสถานการณ์แบบร้านตนอีก และขอโทษลูกค้าที่มาไลฟ์ดราม่า เพราะตนอึดอัด มันกลั้นไม่ไหวจริงๆ
โดยทางเจ้าของร้าน "โกดังชาบู" พูดถึงสถานการณ์ล่าสุดของร้านที่กำลังจะไปต่อไม่ไหวแล้ว มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่ร้านจะรับไหว และสายเกินไปที่จะก้าวต่อ ทั้งที่พยายามต่อสู้อดทนแล้ว
โดยเจ้าของร้านเล่าต่อว่า ขอโทษที่มาดราม่า ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ร้านนี้คือชีวิตของตน เป็นที่ทำมาหากินให้ตนดูแลลูกและครอบครัว แต่ร้านคงจะอยู่ถึงเดือนกันยายนนี้เท่านั้น เพราะมันแบกภาระไว้ไม่ไหวจริง ๆ รถจะโดนยึด ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ไม่มีเงินแม้จะซื้อหลังสือเรียนให้ลูก แถมยังติดหนี้ค่าเช่าร้านอีกประมาณ 1.7 แสนบาทที่ค้างไว้เป็นปีแล้ว
ตนเคยวาดฝันไว้ว่า พยายามยื้อร้านเอาไว้เพื่อวันหนึ่ง ร้านจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม สุดท้ายจนถึงตอนนี้มันคงไปต่อไม่ไหวแล้ว ตนตื่นเช้าขึ้นมาก็มีแต่ข้อความทวงหนี้ ได้แต่ขอโทษเพื่อนที่เป็นคนค้ำประกันให้และจะรีบหาเงินมาใช้หนี้ให้ไวที่สุด สถานการณ์ตอนนี้ต่อให้เปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมง มันก็สู้ไม่ไหวแล้ว
"หนูสู้จนไม่รู้จะสู้อย่างไรแล้ว หนูอดทนเป็นปีกว่าที่ผ่านมา แต่คงสายเกินไปที่จะแก้ไขอะไรแล้ว หนูคงไม่มีปัญญาที่จะยื้อร้านไว้ได้ หนูอยากให้มันจบแค่ร้านหนู" เจ้าของร้านระบุ