ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจงปมกรณีกลุ่มวัยทำงานฉีดแอสตร้าเซนเนก้าพบอาการ ไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ เป็นกลุ่มอาการปกติของวัคซีนแอสตร้าฯ ส่วนใหญ่ร้อยละ 99 หายดีภายใน 2 วัน ขณะเดียวกัน สธ. ได้เจรจาเพิ่มวัคซีนซิโนแวค 5 ล้านโดส
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต เปิดเผยถึงข้อกังวลที่กลุ่มวัยทำงานได้รับวัคซีนแอสตราเซเนก้าแล้วเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ชาตามร่างกายมากว่ากลุ่มผู้สูงอายุ ว่า จากรายงาน พบว่า ร้อยละ 30 ส่วนใหญ่มีอาการไข้ หนาวสั่น ชาตามตัว ถือเป็นกลุ่มอาการเดิม ของอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนแอสตร้าฯ ที่เคยออกมาประกาศก่อนหน้านี้ ไม่ใช่กลุ่มอาการใหม่ ส่วนใหญ่กินยา อาการก็จะดีขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง ขณะที่ในช่วงอายุ 30-40 ปีขึ้นไป อาจพบอาการลิ่มเลือดได้
ส่วนอาการหลังรับวัคซีน ทำให้ภูมิขึ้นง่ายนั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบาย ว่า วัคซีนแอสตร้าฯ เป็นเทคโนโลยีใหม่ เมื่อฉีดเข้าร่างกาย ร่างกายจะมีปฏิกริยากับสารของวัคซีนที่ฉีดเข้าไป เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย ซึ่งเป็นไปตามหลักการของการรับวัคซีนทั่วไป ซึ่งเป็นความซับซ้อนของร่างกาย แต่ไม่ใช่ว่า คนมีอาการมาก ภูมิจะขึ้นเร็ววกว่าคนที่ไม่มีอาการ ขณะที่คนที่ไม่มีอาการภูมิก็ขึ้นเหมือนกัน ซึ่งแล้วแต่บุคคล
ทั้งนี้การฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็ม 1 มีสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นประมาณ 70-80% แล้วค่อยฉีดเข็ม 2 ต่อใน 16 สัปดาห์ โดยที่ภูมิคุ้มกันไม่ได้ลดลง แสดงว่ามีภูมิที่ป้องกันการป่วย อาการรุนแรง และเสียชีวิตได้
ส่วนความคืบหน้า วัคซีนแอสตร้าเซนาก้า ตามที่ กรมควบคุมโรคเจรจากับบริษัทแอสตร้าฯ เบื้องต้น วันที่ 14 มิถุนายน จะทยอยส่งล็อต2 แต่ยังไม่รู้จำนวน ส่วนตัวมองว่า หากได้มาเร็วก็ดี
ทั้งนี้ การรับวัคซีนแต่ละชนิดที่ไทยจัดหา มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าทั้งจากซิโนแวค และแอสตร้าเซนาก้า ที่ล้วนแล้วผ่านมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไม่อยากให้ประชาชนต้องมาเลือกในการเข้ารับวัคซีนว่าจะต้องเป็นชนิดไหน โดยขอให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ ในการพิจารณเป็นรายบุคคลไป
ขณะที่ ความคืบหน้าข้อมูลการฉีดวัคซีนซิโนแวคในเด็กได้ตั้งแต่อายุ3 ปีขึ้นไปได้นั้น ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เป็นรายงานจากประเทศจีนหลังจากได้มีการศึกษาวิจัยในเด็ก ส่วนประเทศไทยยังขอดู ศึกษาข้อมูลก่อน
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาซื้อซิโนแวคเพิ่ม ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ได้มีการเจราจรหารือผู้ผลิตวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม จากเดิม 3 ล้านโดส เป็น 5 ล้านโดส เนื่องจากศักยภาพการฉีดของไทยค่อนข้างสูง เฉลี่ยวันละ 400,000 โดส ซึ่งคำนวณแล้ว 3-4 วันหมด ส่วนศักยภาพการฉีดวัคซีนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนด้วย ส่วนการฉีดวัคซีนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนมากขึ้น ย่อมเกิดผลข้างเคียงมากขึ้นตามสัดส่วนที่ได้รับการฉีด ซึ่งบางรายที่เกิดผลข้างเคียงนั้นก็จะต้องไปพิสูจน์ว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่
ส่วนกรณีที่ในหลายพื้นที่ เกิดปรากฎการณ์ประชาชนที่ไปฉีดวัคซีนตามคิว ปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนของซิโนแวค ยืนยันว่าจะฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ เท่านั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยตอนนี้เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยรุนแรง และการเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นหากได้สิทธิในการฉีดวัคซีนแล้ว ก็ไม่อยากให้ประชาชนเลือกยี่ห้อ ขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ฉีดวัคซีนชนิดใด ส่วนเรื่องวีไอพีนั้นได้กำชับให้หน่วยบริการฉีดตามลำดับ ดำเนินการให้ถูกต้อง