ฮารุ สุประกอบ พูดในฐานะผู้ประกอบการ ก่อนสั่งปิด-เปิด ภาครัฐควรคุยกันก่อน
"ฮารุ สุประกอบ" ขอพูดในฐานะผู้ประกอบการ ถึงกรณี ศบค. สั่งชะลอมติ กทม. ออกไปอีก 14 วัน บอกก่อนจะมีมาตรการสั่งปิด-สั่งเปิด ฝากประชุม คุยกันก่อนทุกภาคส่วน แล้วค่อยออกมาบอกประชาชน
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.64) คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เห็นชอบให้ผ่อนปรนเปิดสถานประกอบการ 5 ประเภทในกรุงเทพฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ก่อนที่ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ศบค. ได้ออกมาประกาศให้เบรค ชะลอมติ กทม.ไปอีก 14 วัน
ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์จากประชาชน ต่างแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงคุณแม่ลูกสาม "ฮารุ สุประกอบ" ที่ทำธุรกิจร้านทำเล็บ ทำผม ต่อขนตา
ล่าสุดเธอได้ออกมาโพสต์ข้อความฟาด กทม. และ ศบค. ไม่ปรึกษาหรือคุยกันก่อนประกาศหรือไง ทำแบบนี้ประชาชนสับสน พร้อมขอพูดในฐานะผู้ประกอบการ เข้าใจดีถึงมาตรการต่างๆ ที่สั่งปิด เพื่อลดความเสี่ยงโควิด
แต่ฝากภาครัฐประชุมกันก่อน หรือคุยกันก่อน ตัดสินใจร่วมกันก่อนทุกภาคส่วน แล้วค่อยส่งตัวแทนออกมาบอกประชาชน ระบุข้อความที่โพสต์ว่า
"ศบค. ชะลอมติ กทม. ออกไป 14 วัน เช้ามา กทม. มีมติให้ผ่อนปรนมาตรการสำหรับสถานประกอบการ 5 ประเภท / พอค่ำ ศบค. ชะลอคำสั่งผ่อนปรนมาตราการ กทม. ตอนเช้า
อะไรรรรรรคุณพี่ กทม. & ศบค. ไม่ปรึกษาหรือคุยกันกันก่อนประกาศหรอ ต่างคนต่างคิด มันทำให้ประชาชนสับสนนะคะ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับการบริหาร scale ใหญ่ระดับประเทศ
การสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนไม่สับสนเป็นเรื่องสำคัญ ที่สำคัญไม่ควรเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับหลายๆเรื่องในการชี้แจงอัพเดทข่าว ทุกประเด็นในช่วงสถานการณ์ที่ประชาชนรอฟังอย่างมีความหวังและรอฟัง เพื่อให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตาม
อันนี้ขอพูดในฐานะผู้ประกอบการร้านทำเล็บ ทำผม ต่อขนตานะคะ ว่าทางครอบครัวเราเข้าใจประมาณนึง(ถึงแม้ว่าจะตั้งข้อสงสัยบ้างในบางเรื่อง) เรื่องมาตรการต่างๆ ที่สั่งปิดสั่งลดบริการที่รัฐคิดว่าพอจะมีความเสี่ยงในการแพร่โรคระบาด
เราปฎิบัติตามกฎรัฐเสมอมา ทั้งๆ ที่ผลกระทบจากการปิดเยอะมาก แต่เพื่อให้ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติเร็วๆ ครอบครัวเราพร้อมให้ความร่วมมือ
ทางนี้ขอความเห็นใจจากรัฐหน่อยนะคะ เวลาจะออกมาตรการอะไรสั่งปิดสั่งเปิด สั่งลดสั่งเพิ่ม สั่งให้ไม่ให้ ปลอดภัยไม่ปลอดภัย ข้อมูลแต่ละอย่างก่อนเผยแพร่
ฝากประชุมกันก่อน คุยกันก่อน ตัดสินใจร่วมกันก่อนทุกภาคส่วนแล้วส่งตัวแทนออกมาบอกประชาชน พวกเราจะได้ไม่งง ว่าจะเชื่อข้อมูลไหน อันไหนข่าวจริง อันไหนเฟคนิว อันไหนข่าวล่าของ
ล่าสุดรีเฟรชข่าวทีข้อมูลเปลี่ยน อันนี้พูดในฐานะประชาชนคนนึงนะคะ พิมพ์ด้วยความหวังดีไม่เกี่ยวกับการเมืองแบ่งพรรคแบ่งพวก
อันนี้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ ความอยู่รอด ความปลอดภัย ของพวกเราทุกคนในช่วงสถานการณ์ที่ความเข้าใจ ความร่วมมือในทิศทางเดียวกันแบบทีมเวิร์ค สำคัญกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
ขอระบายยาวหน่อยนะคะ แต่สู้มากๆค่ะ เราต้องรอดไปให้ได้ ทุลักทุเลหน่อยช่วงนี้ แต่พยายามมองในแง่ดีเข้าไว้เดี๋ยวมันจะดีขึ้นแล้วเราจะแกร่งขึ้น"
