"เทพไท เสนพงศ์" อดีต สส.นครศรีธรรมราช - "มาโนช เสนพงศ์" คอตก ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก คดีทุจริตเลือกตั้ง นายก อบจ.จำคุก 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี รอลุ้นระทึกขอประกัน-ขออนุญาตฎีกา
วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาชี้ชะตา เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ และ มาโนช เสนพงศ์ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ยืนตามศาลชั้นต้น ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีอาญา กรณีการทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีนายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรงเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2
ในเวลานัดหมายฟังคำพิพากษา 09.30 น.ที่ผ่านมา ฝ่ายโจทก์ และจำเลยทั้ง 2ได้เดินทางมาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในห้องพิจารณาบัลลังค์ 7 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ออกนั่งบัลลังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 และได้ถ่ายทอดผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนท์มายังบัลลัง 7 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คู่ความรอฟังคำพิพากษา ปรากฏว่าศาลได้พิจารณาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ทำให้นายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยทั้งสองถูกคุมตัวเข้าห้องควบคุมทันที
นายสุวิทย์ ศิริวุฒิ ทนายโจทก์ เปิดเผยว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษายืนหมายความว่าจำเลยทั้งสองจำคุก 2ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้นคดีนี้เป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกา จำเลยทั้งสองต้องยื่นขออนุญาตฎีกา ยื่นฏีกานั้นมี 2 ประเด็ฌนที่ต้องเกิดในภายหน้าคือกรณีถ้าศาลอนุญาตนั้นถือว่าจบไปรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ถ้าศาลไม่อนุญาตคือต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาคือเข้าไปจำคุก 2 ปี
"แต่วันนี้ปัญหาที่จะเกิดกับจำเลยทั้งสองคือการยื่นขอประกันตัวต่อศาลนครศรีธรรมราช ซึ่งศาลนครศรีธรรมราช อาจจะมีคำสั่งให้ศาลฎีกาสั่งก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ติดตามคดีนี้ต้องดูเหตุการณ์เป็นลำดับขั้นตอนต่อไป"
สำหรับคดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากการทุจริตเลือกตั้ง ด้วยการจัดเลี้ยงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2556 ก่อนที่จะถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบแดงในปี 2557 หลังจากนั้น กกต.เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน เมื่อราว 7 ปีก่อน แต่ภายหลังคดีล่าช้าในกระบวนการชั้นพนักงานสอบสวน จนถึงชั้นอัยการ นายพิชัยในฐานะผู้เสียหายโดยตรงจึงยื่นฟ้องคดีด้วยตัวเองจนมีการกระบวนการพิจารณามาถึงศาลอุทธรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอว่าจะมีการอนุญาตให้ฎีกาคดีหรือไม่