มาราธอนคือการวิ่งระยาว 42.195 กิโลเมตร ที่ต้องอาศัยแรงกายแรงใจสุดกำลัง การฝึกซ้อมที่ยาวนาน...และเพียงแค่การวิ่งคนเดียวก็ยากเย็นเข็ญใจมากพออยู่แล้ว แต่ ดิค ฮอยต์ (Dick Hoyt) ทำสิ่งที่เรียกได้ว่า เป็น "สุดยอดคุณพ่อ" แห่งนักสร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการเข็นลูกชายที่ป่วยติดเตียงลงแข่งรายการวิ่งทั้งระยะสั้น และระยะไกล รวมถึงแข่งขันไตรกีฬามานับพันรายการ
นับเป็นเรื่องราวอันเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลก...เรื่องราวของดิค ฮอยต์ (Dick Hoyt) ชายที่เข็นลูกชายซึ่งป่วยไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวตั้งแต่คอลงไปได้เลย โดยย้อนกลับไปในปี 1962 ดิค ฮอยต์ ซึ่ง ณ ขนะนั้น อายุ 22 ปี มีลูกชาย ริก- ผู้โชคร้ายถูกรกพันคอทำให้สมองขาดออกซิเจนนานจนบางส่วนตาย เขาจึงไม่สามารถควบคุมส่วนต่างๆของร่างกายได้ ซึ่งแพทย์แนะนำให้ทิ้งหนูน้อยไว้ที่โรงพยาบาลดีกว่าพากลับไปเลี้ยงในสภาพที่ไม่ต่างจาก?ผักไปตลอดชีวิต แต่ครอบครัวฮอยต์ยืนกรานที่จะพาลูกชายกลับบ้านและตั้งใจจะเลี้ยงดูไม่ให้ต่างจากคนปกติ
นับแต่นั้นมา ดิก ฮอยต์ ดูแลลูกชายอย่างทะนุทะนอมและตอนริคอายุ 12 ดิคและจูดี้ ภรรยาได้มอบคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งให้ลูกชาย ซึ่งถือเป็นคอมพิวเตอร์พิเศษที่ต่อแป้นพิมพ์จากหน้าจอมาไว้ที่ด้านหลังศีรษะ เพื่อให้ริคสามารถขยับคอและบังคับหัวให้กดลงไปบนแป้นพิมพ์ เพื่อส่งข้อความสื่อสารกับครอบครัวเขาได้
แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง ในปี 1977 ลูกชายที่อยู่ในสภาพแทบขยับตัวไม่ได้ ก็ได้ส่งข้อความให้คุณพ่อว่า ...เขาอยากจะลงแข่งขันวิ่ง เพื่อให้ชีวิตมันเดินหน้าต่อไปได้ และให้มีไฟในการใช้ชีวิต และนี่คือจุดกำเนิดของ "ทีมฮอยต์"
ดิค และ ริค ฮอยต์ ลงแข่งขันรายการวิ่งด้วยกัน ในลักษณะที่คุณพ่อดิคจะเข็นรถลูกชายไปด้วยตลอดทาง...ทั้งคู่เริ่มขยับระยะทางในการแข่งเพิ่มขึ้น จาก 5 กิโลเมตร...10กิโลเมตร...21 กิโลเมตรจนกระทั่งไปถึงระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ก่อนจะตัดสินใจขยับไปสมัครเข้าร่วมงานแข่งวิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด บอสตัน มาราธอน (Boston Marathon) ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการเวิลด์เมเจอร์ของโลก
จากนั้นเรื่องราวทั้งคู่ ได้กลายเป็น "ไอคอน" ของบอสตัน มาราธอน เพราะลงแข่งขันติดต่อกันยาวนาน 32 ปี โดยบอสตัน มาราธอน 2014 คือปีสุดท้ายที่ "ทีมฮอยต์" ลงแข่ง เพราะด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น โดย ณ ขณะนั้นคุณพ่อดิคมีอายุ 74 ปี และริค ลูกชาย อายุ 52 ปี
ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1977 จนถึงปี 2014 "ทีมฮอยต์" เข้าร่วมการแข่งขันต่างๆมาแล้วกว่า 1,130 รายการ เป็นมาราธอนมากกว่า 70 ครั้ง นอกจากนี้ยังขยับไปแข่งขันไตรกีฬากว่า 200 ครั้งด้วย และทุกครั้งย่อมสร้างแรงกระเพื่อมแห่งกำลังใจไปสู่ผู้ที่พบเห็นและทราบข่าว
เรื่องราวของพ่อลูกคู่นี้นับเป็นความสวยงามและทรงพลัง ...สร้างแรงบันดาลใจเสมอมา แม้วันนี้ทั้งคู่จะไม่ได้มีโอกาสวิ่งพร้อมกันอีกแล้ว เพราะดิค ฮอยต์ เพิ่งเสียชีวิตลงบนวัย 80 ปี เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา สนามบอสตันมาราธอนถึงกับสร้างรูปปั้นของทั้งคู่ไว้ที่ถนน ฮอปกินตัน (Hopkinton ) ซึ่งเป็นจุดสตาร์ทการแข่งขันให้เป็นอนุสรณ์ของแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่และความรักของ "ทีมฮอยต์" จะเป็นตำนานของมาราธอนตลอดไป
...ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามริค ลูกชายว่า ถ้าเขาสามารถให้อะไรก็ตามกับพ่อของเขาได้ เขาจะอยากให้อะไร ริคตอบว่า "ถ้าเป็นไปได้ ผมขอให้พ่อของผมได้มีโอกาสนั่ง แล้วให้ผมมีโอกาสเข็นเขาสักครั้ง...ก็คงดี"
เรื่องราวของทีมฮอยต์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของสองพ่อลูกที่ช่วยรักษาชีวิตของกันและกันเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจแก่คนทั่วโลก ทำให้หลายชีวิตที่เคยสิ้นหวังกลับมามุ่งมั่นได้อีกครั้ง รวมทั้งทำให้ผู้พิการมีกำลังใจและได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้นด้วย
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากความรักอย่างไร้เงื่อนไขและไม่มีที่สิ้นสุดของสุดยอดคุณพ่อผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีอย่างดิค ฮอยต์