หมิว สิริลภัส เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโดนตำรวจบุกตามเข้าห้องน้ำหญิง

จากก่อนหน้านี้ที่นักแสดงสาว "หมิว สิริลภัส" ได้แจ้งความที่สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 หลังถูกชายปริศนารูปร่างใหญ่ที่ขับรถตำรวจ

บุกตามเข้าห้องน้ำหญิงในปั๊มแห่งหนึ่ง เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 มีนาคม 2564 ซึ่งเธอบอกว่าบุคคลนั้นจงใจที่จะถ่ายคลิปเพื่อกระทำอนาจาร

หมิว สิริลภัส แจ้งความ ถูกชายปริศนา อ้างขับรถตำรวจบุกตามเข้าห้องน้ำ

โดยล่าสุดสาว หมิว ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เผยความคืบหน้า และเตือนภัยผู้หญิงด้วยกัน ระบุว่า

"เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นวันที่  6 มี.ค. 2564 ตนได้แวะปั๊มเข้าห้องน้ำ เห็นรถอีกคันจอดด้านข้าง เรารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจหยิบมีดผลไม้ พร้อมโทรศัพท์ เดินไปห้องน้ำด้วย"

"ตอนที่เราเดินไปห้องน้ำ เราได้ยินเสียงคนเดินตามเข้าห้องน้ำ เราจึงตัดสินใจยังไม่ทำธุระ ขึ้นไปยืนบนส้วมหลุม มือหนึ่งถือมีด อีกมือถือโทรศัพท์

เพื่อมองไปยังห้องน้ำข้างๆ ปรากฏว่าห้องนั้นประตูไม่ล็อค สองคือไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ซึ่งผิดวิสัยของคนเข้าห้องน้ำ"

"เราก็เอ๊ะใจ ยืนเงียบ ต่างคนต่างเงียบ ประมาณ 3 นาที แต่มีจังหวะที่เขามองขึ้นมาพอดี ทำให้เห็นว่าห้องข้างๆ เป็นผู้ชายหัวเกรียน จำไม่ได้ว่าเขาใส่ชุดอะไร ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นไปตามคลิปเลยค่ะ"

"ต่อมาชายคนนั้นรีบออกจากห้องน้ำ และเขาก็รีบปฏิเสธ พูดว่าไม่มีอะไร บริสุทธิ์ใจ จากนั้นก็รีบขึ้นรถออกไป แต่เราก็ถามว่าไม่มีอะไรได้ยังไง เพราะเห็นถือมือถือไว้

ซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้ถ่ายคลิปไป เพราะตนรู้ทัน แต่ที่เราตกใจ คือเขาขับรถตำรวจ มันคือการคุกคามทางเพศ"

"ส่วนที่เขาบอกว่า ไม่มีอะไร รีบจนเข้าห้องผิด ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ห้องน้ำแยก ไม่ใช่ห้องน้ำรวม การเดินเข้าไป มีป้ายชัดเจนมากนะคะ และที่สำคัญตรงนั้นมีไฟ เขาไม่สามารถอ้างได้"

"ส่วนที่เขาบอกว่าปวดฉี่มาก ไม่ทันดู อันนั้นต้องรอดูกล้องวงจรปิด"

"อยากถามคำถามเดียว ถ้าเข้าห้องผิดจริงๆ แต่มีคนโวยวายจะตอบว่าอะไร แต่เขารีบปฏิเสษว่าไม่มีอะไรครับ นี่คือเจตนาของคนบริสุทธิ์เหรอคะ"

"มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แล้วนี่เป็นห้องน้ำหญิง เขาไม่ควรเข้ามา"

"ส่วนเรื่องนี้จะมีเหตุผลอื่น เรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวไหม ต้องไปถามเขา เพราะเราไม่อยากตีความใดใด เพราะคิดไปทางไหน จิตใจตนก็ย่ำแย่"

"สาเหตุที่ตนพกมีดปลอกผลไม้ไว้ เพราะตนเป็นผู้หญิง ขับรถไปทำงานต่างจังหวัด เดินทางคนเดียว ไม่ผิดที่เราจะป้องกันตัวเอง ซึ่งพกมีดไว้ตั้งแต่เริ่มขับรถแล้ว"

"ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี เดี๋ยวจะไปคุยวันนี้  (22 มี.ค. 2564) ก่อนหน้านี้ทางตำรวจต้นสังกัดของชายคนนั้นได้ติดต่อเข้ามา"

"เขาโทรมาหา บอกได้ทราบเรื่องแล้ว เขาได้ถามคนก่อเหตุแล้ว จะพยายามสอบสวนดำเนินการให้ไวที่สุด ซึ่งตำรวจบอกจากที่สอบถามเบื้องต้น เขาบอกกำลังไปทำธุระ แต่ได้ยินเสียงโวยวายจากหมิว"

"ถามว่าเราอยากให้ดำเนินการขั้นไหน ตอนแรกอยากคุยเป็นการส่วนตัวก่อน เราอยากทราบถึงเหตุผล ถ้าเขาไม่ตั้งใจจริงๆ เราพร้อมให้อภัย"

"แต่สิ่งที่เราได้ยินมา เขาคิดว่าเราคิดไปเอง เขาคิดว่าเขาไม่คิด เพราะฉะนั้นให้เป็นเรื่องกระบวนการกฎหมาย เราอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง เพราะตำรวจควรเป็นอาชีพที่ประชาชนต้องไว้ใจ"

"ถามว่าเราจะมั่นใจกับกระบวนการยุติธรรมขนาดไหน ก็ต้องฝากพี่ๆสื่อมวลชนทุกคน สิ่งที่หมิวยังมีอยู่ คือสื่อมวลชนและประชาชน"

"หมิวยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม หมิวยังอยากให้เกิดขึ้นค่ะ ตอนนี้หมิวว่าความเชื่อมั่นตำรวจกับประชาชนค่อนข้างห่าง ถ้าเขาแสดงออกได้ จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมา"

"ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น ก่อนหน้านี้ค่อนข้างแย่ เพราะหมิวไม่เคยคิดว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย ไม่เคยรู้สึกว่ากรุงเทพไม่ปลอดภัย แต่ตอนนี้ออกไปเซ่เว่นยังไม่กล้า"

"ส่วนที่ถามว่าถ้าตำรวจคนนั้น ถูกนายสั่งมาให้ตามตน จะเอาผิดผู้บังคับบัญชาไหม เราก็คงสอบถามเหตุผล ถ้าเขาถูกสั่งมาให้ติดตามหมิว ต้องถามว่าทำไมต้องทำแบบนั้น"

"ถ้าเหตุการณ์นี้ไปเกิดขึ้นกับน้องสาวเขา มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรื่องหมิวเกิดขึ้น พ่อแม่หมิวจะอยู่ยังไง มันไม่ได้ทำร้ายคนเดียว แต่ทำลายสถาบันครอบครัว"

"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก มันเป็นความปลอดภัย แล้วทำไมเราถึงไม่ได้ ในเมื่อเราทำตามหน้าที่ทั้งหมด แต่ไม่เคยได้สิทธิ

หมิวเป็นประชาชนคนหนึ่ง ปฏิบัติตามหน้าที่ทุกอย่าง ยืนยันไม่ไกล่เกลี่ยจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด"