ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำพิพากษาจำคุก "วัฒนา เมืองสุข" 50 ปี คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ
คดีหมายเลขดำที่ อม. ๔๒/๒๕๖๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๕/๒๕๖๓ ระหว่าง อัยการสุงสุด โจทก์ นายวัฒนา เมืองสุข ที่ ๑ กับพวกรวม ๙ คน จำเลย คดีหมายเลขดำที่ อม. ๑๐๒/๒๕๖๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๖/๒๕๖๓ ระหว่าง อัยการสุงสุด โจทก์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่ ๑ กับพวกรวม ๕ คน จำเลย
ทั้งนี้ คดีทั้งสองสํานวนนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้เรียกโจทก์ทั้งสองสํานวนว่า โจทก์ เรียกจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๙ในสํานวนแรกว่า จําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๙ และเรียกจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๕ ในสํานวนหลังว่า จําเลยที่ ๑๐ ถึงที่ ๑๔ ตามลําดับ
พิพากษาว่า จําเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘ (เดิม) จําเลยที่ ๔ ถึงที่ ๘ และที่ ๑๐ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘ (เดิม)ประกอบมาตรา ๘๖
การกระทําของจําเลยที่ ๑ และที่ ๔ ถึงที่ ๘ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
ลงโทษจําเลยที่ ๑ จําคุกกระทงละ ๙ ปีรวม ๑๑ กระทง เป็นจําคุก ๙๙ ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจําคุกจําเลยที่ ๑ มีกําหนด ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ (๓)
ลงโทษจําเลยที่ ๔ จําคุกกระทงละ ๖ ปี รวม ๑๑ กระทง เป็นจําคุก ๖๖ ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจําคุกจําเลยที่ ๔มีกําหนด ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ (๓)
ลงโทษจําเลยที่ ๕ จําคุกกระทงละ ๔ ปี รวม ๕ กระทง เป็นจําคุก ๒๐ ปี
ลงโทษจําเลยที่ ๖ จําคุกกระทงละ ๔ ปีรวม ๑๑ กระทง เป็นจําคุก ๔๔ ปี
ลงโทษจําเลยที่ ๗ จําคุกกระทงละ ๔ ปี รวม ๘ กระทงเป็นจําคุก ๓๒ ปี
ลงโทษจําเลยที่ ๘ ปรับกระทงละ ๒๕,๐๐๐ บาท รวม ๑๑ กระทงรวมเป็นเงิน ๒๗๕,๐๐๐ บาท
ลงโทษจําเลยที่ ๑๐ จําคุก ๔ ปี ให้นับโทษจําคุกจําเลยที่ ๔ ต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ๒ ในคดีหมายเลขแดงที่ อ. ๓๓๓๑/๒๕๕๗, อ. ๓๓๓๒/๒๕๕๗,อ. ๓๓๓๓/๒๕๕๗ และ อ. ๓๓๓๔/๒๕๕๗ ของศาลแขวงสมุทรปราการ และต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ๑๔ ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๗๘/๒๕๖๐ และ อม. ๑๗๙/๒๕๖๐ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ให้นับโทษจําคุกจําเลยที่ ๕ ต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ๑๑ ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๗๘/๒๕๖๐ และ อม. ๑๗๙/๒๕๖๐ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ให้นับโทษจําคุกจําเลยที่ ๑๐ ต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ๑ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๘๔๘๘/๒๕๕๒ ของศาลจังหวัดพัทยา
ส่วนที่โจทก์มีคําขอให้นับโทษ จําเลยที่ ๑๐ ต่อจากโทษจําเลยที่ ๒๔ ในคดีอาญาหมายเลขดําที่ อ. ๒๕๔๒/๒๕๕๓ คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ. ๒๐๗๖/๒๕๖๓ ของศาลอาญา นั้น คดีดังกล่าวศาลอาญามีคําพิพากษายกฟ้องจึงไม่อาจนับโทษต่อได้
หากจําเลยที่ ๘ ซึ่งเป็นนิติบุคคลไม่ชําระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙ กับให้ริบเงิน จํานวน ๑,๓๒๓,๐๐๖,๗๕๐ บาท โดยให้จําเลยผู้มีหน้าที่ต้องส่งเงินที่ริบชําระเป็นเงินแทน ตามมูลค่าของเงินที่ศาลสั่งริบภายในกําหนด ๓๐ วัน นับแต่วันที่ศาลมีคําพิพากษา หากไม่ชําระภายในระยะเวลากําหนดต้องชําระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินแต่ละจํานวนดังกล่าวจนกว่าจะชําระเสร็จ
จําเลยที่ ๑ ที่ ๔ ที่ ๖ และที่ ๘ ร่วมกันชําระเป็นเงินแทนตามมูลค่า จํานวน ๑,๓๒๓,๐๐๖,๗๕๐ บาท
จําเลยที่ ๕ ร่วมชําระ จํานวน ๗๖๓,๑๙๗,๐๐๐ บาท
จําเลยที่ ๗ ร่วมชําระ จํานวน๑,๐๕๖,๒๖๗,๐๐๐ บาท
จําเลยที่ ๑๐ ร่วมชําระจํานวน ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไม่ริบเงินตามฟ้อง ข้อ ๒.๖ เฉพาะจํานวน ๘๙,๐๐๐,๐๐๐ บาทและตามฟ้องข้อ ๒.๙ เฉพาะจํานวน ๗,๖๑๐,๐๐๐ บาท
ให้ยกฟ้องโจทก์สําหรับจําเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๙ และที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๔