เกิดการชุมนุมทั่วประเทศรัสเซีย จากทั้งฝ่ายหนุน และฝ่ายต่อต้าน นายวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งเหตุการณ์เกิดบานปลายขึ้นหลังมอสโกจับกุม อเล็กซี นาวัลนี นักเคลื่อนไหวคู่อริ ปูติน
มีรายงานข่าวจาก สำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า ชาวรัสเซียร่วมแสนคนคนฝ่าอุณหภูมิติดลบกว่า 19 องศาเซลเซียส ออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้านนายวลาดิมีร์ ปูติน พร้อมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายปูตินจำนวนมากก็ออกมาร่วมชุมนุมเช่นกัน ซึ่งการชุมนุมประท้วงครั้งนี้เป็นการชุมนุมใหญ่ครั้งที่สาม นับตั้งแต่การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์และประท้วงอย่างหนักว่าไม่มีความโปร่งใส
กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ และจัดการเลือกตั้งใหม่ พร้อมทั้งเสนอให้มีการปฏิรูปการเมืองและระบบการเลือกตั้งอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงยังรณรงค์ให้ประชาชนไม่ออกเสียงเลือกตั้งให้แก่นายปูตินในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนมี.ค.ด้วย
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนให้กำลังใจนายปูติน โดยตำรวจรัสเซียเปิดเผยว่า ผู้ชุมนุมที่สนับสนุนปูตินมีจำนวนมากกว่า 90,000 คน แต่สื่อมวลชนในพื้นที่รายงานว่าประชาชนที่มาเข้าร่วมการชุมนุมสนับสนุนปูตินมีไม่ถึง 50,000 คน
ด้านนักวิเคราะห์ มีความเห็นว่า แม้การรณรงค์ของฝ่ายต่อต้านนายปูตินจะไม่สามารถสั่นคลอนโอกาสของนายปูตินที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่จำนวนของผู้ประท้วงทั้งสองกลุ่มจะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญว่านายปูตินจะยอมรับฟังกระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองและระบบการเลือกตั้งในประเทศหรือไม่