กรมควบคุมโรคห่วง นอกจากสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดหนักแล้ว ยังมีไข้หวัดใหญ่ระบาดแถม เตือนประชาชนสวมหน้ากากตลอดเวลา
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์ที่ 2 ของปี 2564 ระหว่างวันที่ 10-16 มกราคม ว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 – วันที่ 6 มกราคม 2564 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ จำนวน 122,044 ราย เสียชีวิต 3 ราย พบว่าต่ำกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากที่สุดคือ ช่วงอายุแรกเกิด ถึง 4 ปี รองลงมา 5-14 ปี และ 15-24 ปี ส่วนจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ พะเยา เชียงใหม่ หนองคาย ตามลำดับ
จากโปรแกรมตรวจสอบข่าวการระบาดของกรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีรายงานการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สะสมทั้งหมด 28 เหตุการณ์ ใน 17 จังหวัด โดยเป็นการระบาดในโรงเรียน 13 เหตุการณ์ เรือนจำ 9 เหตุการณ์ และสถานที่ทำงาน 3 เหตุการณ์ และค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 เหตุการณ์
คาดว่าในช่วงนี้ มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง แต่ในขณะนี้มีสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ร่วมด้วย จึงอาจพบการรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกับปี 2563
กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และโรคโควิด-19 ไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันหมู่มาก เช่น สถานศึกษา ที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า หรือการไปร่วมงานต่างๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน หากมีความจำเป็นต้องเข้าร่วมงาน ควรมีการป้องกันตนเองเมื่อต้องเข้าไปในสถานที่ที่มีการรวมตัวกันหมู่มาก โดยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล และไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ และใช้ช้อนกลางส่วนตัว ดื่มน้ำ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลร่างกายให้อบอุ่น
ผู้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ได้แก่ ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี หญิงมีครรภ์ ผู้มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และบุคลากรทางการแพทย์ ควรรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล หากมีอาการป่วยให้ไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน โทร.1422