svasdssvasds

13 ผู้ต้องหาคดี ม.112 ม.116 เข้าพบพนักงานสอบสวนนัดรายงานตัวอัยการ

13 ผู้ต้องหาคดี ม.112 ม.116 เข้าพบพนักงานสอบสวนนัดรายงานตัวอัยการ

13 แกนนำม็อบหน้าสถานทูตเยอรมนี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ฟังนัดส่งตัวต่ออัยการ ด้านแกนนำเผยช่วงนี้หยุดชุมนุมยาว

จากกรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เชิญชวนให้มาร่วมกันให้กำลังใจผู้ต้องหา 13 ราย ที่ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 มีกำหนดการนัดส่งตัวอัยการวันนี้ ซึ่งได้นัดหมายรวมตัวกันก่อนที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆในเวลา 10.00 น.

วันนี้ (7 มกราคม 2564) เวลา 10.30 น. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แกนนำ 13 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ หรือมายด์, 2.นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือปอ, 3.นายชนินทร์ วงษ์ศรี, 4.น.ส.เบญจา อะปัญ, 5.นายวัชรากร ไชยแก้ว, 6.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, 7.นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่, 8.นายอัครพล ตีบไธสง, 9.นายกฤษพล ศิริกิตติกุล, 10.น.ส.สุธินี จ่างพิพัฒน์นวกิจ, 11.น.ส.รวิสรา เอกสกุล, 12.น.ส.ณัชชิมา อารยะตระกูลลิขิต

13.นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับฟังการนัดหมายในการรายงานตัวต่ออัยการ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 กรณีกิจกรรมชุมนุม #ม็อบ 26 ตุลา ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563

สำหรับคดีนี้ เป็นการชุมนุมของกลุ่ม ราษฎร 2563 จัดกิจกรรมปราศัย หน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 โดยเป็นการเดินขบวนจากแยกสามย่าน ไปยังสถานทูตเยอรมนี ถนนสาทร ซึ่งตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมออกหมายเรียกแกนนำ และแนวร่วมนักศึกษา เข้ารับแจ้งข้อหาหลายความผิดด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้น.ส.ภัสราวลีและพวก ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112 ในวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ในครั้งนั้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ และก่อนหน้านั้นในเดือนพฤศจิกายนโดนหมายเรียกในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 จากการชุมนุมในครั้งเดียวกัน

น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า วันนี้มารายงานตัวตามนัดอัยการ ซึ่งอยู่ระหว่างรอว่าจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้คดีของแต่ละคนตอนนี้มีเยอะมาก ส่วนตัวเองมี 9 คดี โดยช่วงนี้มีนัดรายงานตัวต่ออัยการถี่มาก หลายๆ คดี มาอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงติดๆ กัน นอกจากนี้เริ่มมีเหตุการณ์ที่รัฐออกหมายย้อนหลัง เช่น คดีล่าสุดที่โดนไปเป็นหมายเรียกจากวันที่ 14 ตุลาคม ในข้อหาพ.ร.บ.การชุมนุม เป็นการออกย้อนหลังถึง 2 เดือน

จึงเห็นถึงความพยายามของรัฐในการยัดข้อหาให้ประชาชน เช่นเดียวกับเพื่อนอีกหลายคนที่โดนหมายย้อนหลัง และยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้ไม่สะดวกต่อการนัดชุมนุม ยืนยันในอนาคตจะมีการชุมนุมเรียกร้องต่อแน่นอน แต่จะเป็นในทิศทางใดต้องติดตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หน้า สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จัดกำลังตำรวจกว่า 10 นาย วางกำลังเพื่อดูแลความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าโรงพัก และมีการจัดผู้ที่เข้ามารายงานตัว ให้เข้าไปด้านใน ชุดละ 3-4 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยบันทึกภาพของผู้ที่มาให้กำลังใจและแกนนำด้วย

ทั้งนี้มีกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งได้มาให้กำลังใจขณะที่ด้านผู้ที่ถูกดำเนินคดี ได้มอบกระเช้าเพื่อขอบคุณทนายความที่ให้ความช่วยเหลือเรื่องคดีความ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้เป็นการนัดผู้ที่ถูกแจ้งข้อหาเข้ามาฟังวันนัดหมายที่จะต้องไปรายงานตัวต่ออัยการว่าจะมีการนัดหมายส่งฟ้องเมื่อใดต่อไป

ต่อมาเวลา 11.20 น. นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ เปิดเผยว่า วันนี้มาให้คำให้การเพิ่มเติมเป็นเอกสาร และร้องขอให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำเพิ่ม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะสอบเพิ่ม เพื่อความเป็นธรรม ทำให้ระยะเวลาที่เราได้ยื่นขอให้สอบเพิ่มต้องขยายระยะเวลาออกไป ขณะนี้จึงได้นัดหมายกันว่าอย่างน้อยอีก 15 วัน ก็จะส่งตัวอัยการอีกครั้ง หากยังไม่เสร็จก็ต้องนัดหมายใหม่อีกครั้งหนึ่ง กล่าวสรุปคือมีการเลื่อนส่งตัวอัยการไปอีก 15 วัน วันนี้จึงได้มีการลงบันทึกประจำวันว่า พวกเราได้มารายงานตัวตามเรียกนัด

related