ภาคธุรกิจเชียงใหม่ –เชียงรายตั้งการ์ดรับมือโควิด-19ระลอกใหม่ !

นับว่าเป็นข่าวร้ายส่งท้ายปี 2563 อย่างมากที่ประเทศไทยพบคนติดเชื้อโควิด- 19 ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ทำให้พี่น้องประชาชน และคนทั่วประเทศต้องขนลุกไปตาม ๆ กัน เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่รับมือกับโควิด – 19 ได้ดีระดับต้น ๆ ของโลก ไม่เพียงแค่ผู้คนที่ต้องเสียวพร้อมกันทั่วประเทศ ภาคธุรกิจ การทำมาหากินก็มีหวาดเสียวเช่นกัน เพราะแค่มีข่าวก็กระทบต่อจิตวิทยาการท่องเที่ยว และการค้าขายแล้ว

จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย พื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจังหวัดที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจใหญ่ลำดับต้น ๆของภาคเหนือสามารถดึงดูดการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว  และภาคธุรกิจอื่น ๆ ให้เข้ามาลงทุนปีหนึ่งจำนวนมหาศาลรวมถึงการค้าชายแดนที่เชียงรายปีหนึ่ง ๆ มีมูลค่าสูงมาก และในปีนี้เจอโควิด- 19 ซัดเข้าใส่เต็ม ๆ ทำให้เศรษฐกิจล้มไม่เป็นท่าในช่วงต้นปีลากยาวมาถึงกลางปี

พอมาถึงปลายปีเริ่มซาๆ ก็มีข่าวร้ายมาอีกทำให้เศรษฐกิจเชียงใหม่ เชียงราย ที่ทำท่าว่าจะโงหัวขึ้นในไตรมาสที่ 4 แต่ ... พอมาเจอแบบนี้แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องดูต่อไปว่าจะมีคนติดเชื้อเป็นวงกว้างหรือไม่ ? แต่วันนี้จะพาไปคุยกับเอกชนภาคธุรกิจของจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ และจะกระทบการทำมาหากินกับผู้คนมากน้อยเพียงใด

มาเริ่มกันที่คนแรก นายวโรดม ปิฎกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่กำลังจับตา และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังรอผลตรวจในส่วนที่เหลือว่าติดต่อกันหรือไม่ ส่วนเบื้องต้นตรวจแล้ว 102 คน ไม่พบการติดเชื้อ ในส่วนของมุมมองภาคธุรกิจนั้นก็ตั้งรับกันสุดขีดในตอนนี้ เช่นการสั่งการให้พนักงานในภาคธุรกิจออกมาตรการป้องกันให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งจากเดิมก็ทำกันอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว

ทั้งนี้เชื่อว่ามาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลจะเอาอยู่ไม่ปล่อยให้ระบาดเป็นวงกว้างแน่นอน ในส่วนของประชาชนในจังหวัด และนักท่องเที่ยวเดิมก็มีการป้องกันตัวเองดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการกระทบต่อภาคธุรกิจเชื่อว่าจะกระทบระยะสั้นเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจเชียงใหม่กำลังเริ่มฟื้นตัวแล้วในไตรมาสที่ 4

ด้านนางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ บอกกล่าวความในใจว่า แอบใจหายไม่น้อยหลังเกิดเหตุการณ์พบคนติดเชื้อในพื้นที่ เพราะภาคท่องเที่ยวของเชียงใหม่กำลังไปได้ดีในช่วงปลายปี อากาศกำลังดีคนกำลังเริ่มแห่เที่ยว จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีการยกเลิกโรงแรม ห้องพักไปแล้วประมาณ 1-2 % แต่เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นภายใน 7 วัน ซึ่งหากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มเติมทุกอย่างจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ โดยส่วนตัวเชื่อในมาตรการการรับมือของภาคประชาชนในเชียงใหม่ และเชื่อมั่นในรัฐบาลจะคุมสถานการณ์ได้

ขณะที่ นายเรืองชัย  จิตรสกุล นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว และโรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท จังหวัดเชียงราย บอกว่า เดิมได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี 2563 พอเริ่มจะดีขึ้นในช่วงนี้ก็มาพบคนติดเชื้ออีก จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นในวงกว้างอีกเพราะกระทบต่อธุรกิจแน่นอน รวมถึงการทำมาหากินของพี่น้องประชาชนจะหยุดชะงัก ส่วนตัวมองว่าคงกระทบต่อธุรกิจเพียงระยะสั้น และยังมั่นใจในระบบสาธารณสุขไทยในการรับมือ

อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลเข้มงวดกว่านี้ในการตรวจเข้มชายแดนช่องทางทางธรรมชาติ เพราะจะมีกลุ่มเอเจนซี่ที่ทำธุรกิจนำพาคนจากต่างประเทศหลบหนีเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เพราะกลุ่มนี้คือความเสี่ยงสุดที่จะทำให้โรคกลับมาระบาดอีกครั้ง อยากให้ถ้าจับได้ให้ดำเนินคดีสูงสุด พร้อมยึดทรัพย์

ปิดท้ายกันที่ นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จังหวัดเชียงราย ก็มีความเห็นตรงกับหลายท่านที่กล่าวมาเบื้องต้น แต่คาดว่าเชียงรายน่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว และการค้าขายไม่มากนักเพราะคนที่ติดเชื้อไม่ได้ไปในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ประกอบกับทุกคนในจังหวัดเชียงรายก็มีการป้องกันตัวเองอย่างดีการ์ดไม่ตก ที่สำคัญในจังหวัดได้มีการซักซ้อมแผนรับมือกันทุกอาทิตย์ 

ทั้งหมดนี้ คือ เสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจว่าการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย จะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใดต่อการทำมาหากิน ภาคธุรกิจ ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปในเร็ว ๆนี้ แต่เอกชนส่วนใหญ่ก็มั่นใจในมาตรการรัฐ  ส่วนประชาชน นักท่องเที่ยวในพื้นที่ก็ป้องกันตัวเองดี !