เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์อินเดียอาจติดเชื้อมากกว่า 60 ล้านรายทั่วประเทศ สูงกว่าจากที่ทางการรายงานถึง 10 เท่าตัว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดีย คาดว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ในอินเดียอาจมากกว่า 63 ล้านชีวิต ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ทางการรายงานประมาณ 10 เท่า
จากการสำรวจระดับชาติ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน ผู้คนมากกว่า 29,000 คนใน 700 หมู่บ้าน พบว่าประมาณ 1 ใน 15 คนที่โตกว่า 10 ปี มีแอนติบอดีต่อเชื้อโควิด-19 จากการรายงานของสภาวิจัยทางการแพทย์อินเดีย
การทดสอบแอนติบอดีหรือที่เรียกว่าการทดสอบทางเซรุ่มวิทยาเป็นการตรวจหาโปรตีนแอนติบอดีในระบบภูมิคุ้มกันซึ่งจะสามารถบ่งชี้ได้ว่ามีการไปสัมผัสกับเชื้อไวรัสหรือไม่
จากประชากร 1.3 พันล้านคนของอินเดีย มีประชากรที่อายุมากกว่า 10 ปี อยู่ราว 966 ล้านคน ตามการสำรวจสำมะโนประชากรล่าสุดของรัฐบาลในปี 2554 หรือกว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว หากมีการสัมผัสเชื้อโควิด-19 จาก 1 ใน 15 คนของกลุ่มนี้ จะเท่ากับประชากร 63.78 ล้านคนที่ได้สัมผัสกับเชื้อ
ดร. บัลราม บาร์กาวา (Dr.Balram Bhargava) ผู้อำนวยการสภาการแพทย์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า "จากการสำรวจชี้ให้เห็นว่าสำหรับการติดเชื้อทุกครั้งที่รายงานอย่างเป็นทางการมีผู้ติดเชื้อ 26 ถึง 32 คนที่หลุดรอดจากการตรวจเส้นทางเชื้อ"
ปัจจุบันอินเดียมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดของอินเดียอยู่ที่ 6.3 ล้านคน และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 9.8 หมื่นราย
ซึ่งสาเหตุอาจเกิดได้จากหลายประการ ไม่ว่าผู้คนได้รับการทดสอบที่ไม่เพียงพอ รวมไปถึงข้อผิดพลาดในการรายงานและการลงทะเบียน การเปลี่ยนกลยุทธ์ของรัฐบาลที่อาจทำให้เกิดความสับสนทางตัวเลขและคาดสถานการณ์ผิด
ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายในอินเดียแสดงความเป็นกังวลจากสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายกว่าจากที่ทางการอินเดียคาดไว้
รัฐบาลเริ่มยกเลิกการล็อกดาวน์ในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ล็อกดาวน์มาเป็นเวลานานหลายเดือน เพื่อที่จะฟื้นคืนระบบเศรษฐกิจ แต่ผู้เชี่ยวชาญรวมถึง ดร. บัลราม เตือนว่า "เร็วเกินไปที่จะวางใจได้"