เจาะข้อมูล โอลิมปิก 2020 ทำไมญี่ปุ่นถึงลังเล ที่จะเลื่อน

การแข่งขันมหกรรมกีฬา โอลิมปิก 2020 ที่กำหนดให้มีขึ้นเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ คาดการณ์ว่าญี่ปุ่นต้องใช้งบประมาณไปถึง 1 ล้านล้านเยน หรือราว 2.9 แสนล้านบาท มากกว่าที่คาดการณ์ล่วงหน้าถึง 7 เท่า

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังน้อยกว่าที่จีนใช้จัดงานโอลิมปิกปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง มูลค่า 1.43 ล้านล้านบาท และที่รัสเซียเมื่อปี 2014 มูลค่า 1.62 ล้านล้านบาท

บริษัทเอกชนในประเทศญี่ปุ่นเอง มีรายงานว่าได้ลงเงินไปแล้วถึง 3 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 95,400 ล้านบาท กับการเป็นผู้สนับสนุนรายการ และผู้ถ่ายทอดสดนานาชาติต่างลงทุนก้อนใหญ่เพื่อให้ได้สิทธิ์ถ่ายทอด อย่างเครือข่าย NBC ของสหรัฐฯที่จ่ายถึง 1,400 ล้านเหรียญ หรือราว 44,500 ล้านบาท

โรงแรมต่างๆ ในกรุงโตเกียว ต่างคาดการณ์แขกเข้าพักเพิ่มสูงขึ้นมาก ช่วงที่มีมหกรรมกีฬา อย่างโรงแรม Okura ที่ใช้งบตกแต่งปรับปรุงใหม่ไปถึงหนึ่งพันล้านเหรียญ หรือราว 31,800 ล้านบาท สายการบินแห่งชาติ เจแปนแอร์ไลน์ส เตรียมเปิดตัวสายการบินโลวคอสต์ในเดือนพฤษภาคม ใช้งบไป 200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่สนามบินฮาเนดะและนาริตะ ต่างลงทุนเพื่อขยายศักยภาพการรองรับนักเดินทาง

ขณะที่ญี่ปุ่นยังยืนยันเดินหน้าจัดการแข่งขัน โอลิมปิก 2020 แต่หากตัดสินใจเลื่อนเกมกีฬานี้ออกไป ไม่ใช่แค่จะกระทบนักกีฬาโอลิมปิก 11,000 คน และนักกีฬาพาราลิมปิก 5,000 คน ไหนจะนักท่องเที่ยวนับพันที่เตรียมตัวมา ยังกระทบเหล่าบริษัทเอกชนที่ลงทุนเป็นสปอนเซอร์ และผู้ซื้อสิทธิ์ถ่ายทอดด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามจะบอกว่า การเป็นเจ้าภาพจัด โอลิมปิก 2020 เป็นอีเวนท์ที่จะทำให้คน “รู้สึกดี” ดังนั้นน่าจะมีความเป็นไปได้ต่ำ ที่รัฐบาลจะหนุนการเลื่อนจัดงาน นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ถึงขนาดแต่งตัวเป็นมาริโอไปเปิดตัวญี่ปุ่น ในฐานะเจ้าภาพ ที่ ริโอเกมส์ เมื่อปี 2016

ตั้งแต่เริ่มมีการจัดแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1896 เคยมีการยกเลิกเพียงช่วงเวลาสงครามเท่านั้น

ผลกระทบอาจไม่หนักเท่าที่คิด

ในกรณีที่ผลกระทบหนักสุด หากมีการยกเลิก นักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่น มาร์เซล ธีอีแอนท์ กล่าวว่า จะไม่หนักหนาอย่างที่กลัวกัน

“กุญแจสำคัญคือ ส่วนก้อนลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของโอลิมปิก ได้มีการจ่ายออกไปแล้ว การใช้จ่ายระหว่างการแข่งขันเป็นเพียงส่วนน้อย น่าจะแค่ 0.2 เปอร์เซ็นต์ของ GDP และส่วนใหญ่มาจากด้านอื่น อย่างเช่นการท่องเที่ยว และสันทนาการ”

อย่างไรก็ตาม ธีอีแอนท์ ระบุว่า ประเมินจากข้อมูลการแข่งขันโอลิมปิกในเมืองอื่นๆ ก่อนหน้า มีหลักฐานน้อยมาก ว่า “ความรู้สึกดี” จากโอลิมปิก จะช่วยกระตุ้นการบริโภคได้

โดยภาพรวม ความกังวลในญี่ปุ่นตอนนี้ ที่มีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะเป็นเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนามากกว่า ที่จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงหลายเดือน

“หากจำนวนนักท่องเที่ยวยังน้อยลงไปจนถึงช่วงโอลิมปิก นั่นอาจลด GDP ถึง 0.4 เปอร์เซ็นต์”