ลูกจ้างไทย-เทศ ร่วม 500 คน ในจ.กาญจนบุรี ตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว หลัง CEO บริษัทแร่ยักษ์ใหญ่ชาวไต้หวัน ประกาศปิดกิจการ อ้างนำเข้าวัตถุดิบไม่ได้ เหตุไวรัสโคโรน่าระบาด จ่ายเงินเดือน ไร้เงินชดเชย ด้านกรมแรงงาน รุดช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.63 นางสุขุมาล ธนานันต์ แรงงานจังหวัดกาญจนบุรี นายไพโรจน์ พันธคาร นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้วยกระเจา และเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยกระเจา
เดินทางไปพบคนงานทั้งชาวไทย ฟิลิปปินส์ รวมทั้งแรงงานชาวเมียนมาประมาณ 500 คน เพื่อหาทางช่วยเหลือ หลังบริษัทแห่งหนึ่งของไต้หวัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ที่ดำเนินกิจการหลอมแร่ควอทซ์ เพื่อทำซิลิคอนเมททอล ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมทั้งยุโรป ประกาศปิดตัวลง โดยที่คนงานทั้งหมดไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้ทุกคนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่บริษัทฯจะปิดตัวลง ทางบริษัทได้จ่ายเงินเดือนให้กับคนงานทุกคนหมดแล้ว ยกเว้นค่าชดเชยการว่างงาน
เมื่อไปถึงพบว่า บริษัทได้ปิดประกาศเอาไว้ที่หน้าสำนักงานฯ ระบุว่า “ขณะนี้บริษัทประสบปัญหาในการผลิต เนื่องจากวัตถุดิบที่ส่งมาจากประเทศจีนได้ถูกระงับ ไม่สามารถนำเข้าได้ด้วยเรื่องของโคโรน่ากำลังแพร่ระบาดทางบริษัทในประเทศจีนจึงหยุดการผลิต บริษัทจึงจำเป็นต้องหยุดกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.63 จนกระทั่งสามารถนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตได้ โดยประกาศนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.63 เป็นต้นไป”
แต่จากการสอบถามลูกจ้าง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลูกจ้างทุคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าบริษัทฯจะปิดตัวลงเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 6 ปี ไม่เคยมีวี่แววมาก่อน เพราะบริษัทฯเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 3-4 พันล้านบาท และทางบริษัทยังมีโครงการอื่นๆอีกมากมาย โดยหลังจากทราบทุกคนต่างก็ตกใจ และเสียใจ เพราะหากบริษัทฯปิดตัวลงจริง จะทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน เพราะลูกจ้างจำนวนมากกำลังผ่อนรถ รวมทั้งต้องส่งลูกไปเรียนหนังสือด้วย
ทั้งนี้ นายไพโรจน์ พันธคาร นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นก็คือทางบริษัทแจ้งกับลูกจ้างว่าทางบริษัทจะปิดกิจการ เนื่องจากบริษัทขาดวัตถุดิบในการผลิต เพราะวัตถุดิบคือแร่ บริษัทต้องสั่งเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งวัตถุดิบทางบริษัทฯได้สั่งนำเข้ามาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าถูกเลื่อนมาโดยตลอด ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาเลื่อนตอนนี้ และบังเอิญมาเจอเรื่องของไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดที่ประเทศจีน ทำให้บริษัทฯส่งแร่ที่ประเทศจีนปิดตัวลง ทำให้บริษัท ไม่มีวัตถุดิบมาใช้ในการผลิต จึงจำเป็นต้องปิดกิจการทั้งหมดลง
สำหรับแนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างนั้น ขณะนี้แรงงานที่เป็นแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 193 คน ได้มีการเจรจา และทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าชดเชยไปแล้วคนละ 2,500 บาท พร้อมกับจัดรถบัสไปส่งที่ด่านอำเภอแม่สอด จ.ตาก เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่คืนที่ผ่านมา
ส่วนลูกจ้างต่างด้าวที่เหลือเขาขอพักอยู่ 7 วัน เพื่อที่จะไปหางานทำที่ใหม่ ซึ่งเขาอาจจะมีญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่อยู่ในประเทศไทยไปหางานให้ และทางบริษัทฯจะจัดการเรื่องเอกสารเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งออกจากสำนักงานจัดหางานทั้งหมด
ในส่วนของลูกจ้างที่เป็นคนไทย ขณะนี้นายจ้างกับลูกจ้างอยู่ระหว่างเจรจากันอยู่ว่าจะจ่ายเงินชดเชยการว่างงานกันอย่างไร เท่าไหร่ ซึ่งถ้าตกลงกันได้ในวันนี้ ก็จะได้ทำสัญญากันให้มันจบในส่วนนี้ แต่ถ้าสมมุติว่าวันนี้เจรจากันไม่ได้ ทางสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี ก็จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง ด้วยการดำเนินการตามกฎหมาย มีการรับคำร้องของลูกจ้าง หรือว่าถ้าลูกจ้างมีความประสงค์ที่จะไปใช้สิทธิทางชั้นศาล เราก็จะอำนวยความสะดวกในการที่จะประสานกับศาลแรงงานในการที่จะไปยื่นคำร้อง ถ้ามีการออกคำสั่งหรือมีการฟ้องร้องดำเนินคดี เราก็จะดำเนินคดีไปให้ศาลสั่งหรือให้พนักงานตรวจแรงงานออกคำสั่ง
เมื่อครบกำหนดนายจ้างจะจ่ายหรือไม่ สมมุติว่านายจ้างไม่ยอมจ่าย เราก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เช่น ยึดอายัด ขายทอดตลาดทรัพย์สิน เพื่อนำเงินมาให้กับนายจ้างต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของเราเราก็จะประสานให้กับลูกจ้างในทุกๆด้าน
สำหรับการจ่ายเงินให้กับลูกจ้างในวันนี้ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินเดือน เพราะทางบริษัทได้จ่ายเงินเดือนให้กับลูกจ้างทั้งคนไทยแล้วต่างด้าวไปทั้งหมดแล้ว การที่บริษัทจะต้องจ่ายเงินในครั้งนี้นั้นเป็นการจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับลูกจ้าง จากการเลิกจ้างซึ่งต้องคิดตามอายุงานและรายได้ของลูกจ้างแต่ละคน ซึ่งรวมยอดทั้งหมดแล้วอยู่ที่ประมาณ 8.8 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังคุยกันอยู่ว่านายจ้างจะมีเงินจ่ายเพื่อช่วยเหลือลูกจ้างเท่าไหร่
ในส่วนของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี เราไม่ได้มีเงินจ่ายเพื่อชดเชยให้กับลูกจ้าง แต่ถ้ามีการเลิกจ้าง ลูกจ้างก็สามารถที่จะไปใช้สิทธิ์รับเงินการว่างงานจากสำนักงานประกันสังคมได้ จำนวน 50% เป็นระยะเวลา 6 เดือน
แต่ในส่วนของเราต้องดูก่อนว่า ทางลูกจ้างมีประสงค์ที่จะใช้ทางพัฒนาตรวจแรงงานหรือว่าจะไปใช้สิทธิ์ทางศาล ต้องรอดูว่าวันนี้จะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะแจ้งให้ลูกจ้างทราบ ถ้าลูกจ้างใช้สิทธิ์ที่จะร้อง เราก็จะรับคำร้อง แล้วก็จะออกคำสั่งต่อไป
และจากการพูดคุยทราบว่าทางผู้จัดการบริษัทกำลังหาเงินมาจ่ายให้กับลูกจ้างก้อนหนึ่งก่อน แต่ผู้จัดการก็ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ซึ่งขณะนี้กำลังพูดคุยกับเจ้าของบริษัทผู้มีอำนาจ ที่ได้เดินทางกลับไปยังไต้หวันแล้ว
ล่าสุดเวลา 19.30 น.ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายไพโรจน์ พันธคาร นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ ก็ทราบว่าขณะนี้ลูกจ้างยังไม่สามารถตกลงกับทางบริษัทฯได้ ว่าจะกำหนดจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างก่อนกี่เปอร์เซ็นต์ และจะเริ่มจ่ายในวันไหน ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป