svasdssvasds

ต้านไม่อยู่ปล่อยโคมลอยนับหมื่น นทท. แน่นสะพานนวรัฐ แม้ขู่ใช้กฎหมายเอาผิด

ต้านไม่อยู่ปล่อยโคมลอยนับหมื่น นทท. แน่นสะพานนวรัฐ แม้ขู่ใช้กฎหมายเอาผิด

มาตรการห้ามปล่อยโคมลอย-โคมควันในงานประเพณีนี่เป็ง 5 อำเภอโซนสีแดงล้มเหลว นักท่องเที่ยวเมินแม้จะขู่ใช้กฎหมายเอาผิด -ฝ่าฝืนพรบ.เดินอากาศฉบับที่ 14 ปี 2562 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจยึดโคมลอยได้กว่า 2,000 ลูก คาดนักท่องเที่ยวปล่อยขึ้นฟ้าไปประมาณ 10,000 ลูก

วันนี้ (12พ.ย.62) หลังจากที่มีจังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศห้ามปล่อยโคมลอย และโคมควัน ในพื้นที่ 5 อำเภอ โดยยึดตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ ฉบับที่ 14 ปี 2562 ซึ่งกำหนดให้บริเวณแนวขึ้นลงของเครื่องบิน รวมระยะทางกว่า 18 กิโลเมตร เป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ โดยเฉพาะใน 5 อำเภอ 35 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ครอบคลุมทั้ง 16 ตำบล , อำเภอหางดง ครอบคลุมทั้ง 11 ตำบล , อำเภอสารภี ตำบลขัวมุง ตำบลดอนแก้ว ตำบลท่าวังตาล ตำบลหนองผึ้ง, อำเภอแม่ริม ตำบลดอนแก้ว ตำบลริมใต้ ตำบลแม่สา และ อำเภอสันทราย ตำบลหนองหาร

ต้านไม่อยู่ปล่อยโคมลอยนับหมื่น นทท. แน่นสะพานนวรัฐ แม้ขู่ใช้กฎหมายเอาผิด

แต่ปรากฎว่าในค่ำคืนของวันที่ 11 พ.ย.2562 ที่ผ่าน มีทั้งประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวต่างมีการฝ่าฝืน มีการปล่อยโคมลอยจำนวนมาก ทำให้หลายฝ่ายมองว่า มาตรการของจังหวัดเชียงใหมล้มเหลวหรือไม่

นายวีระพันธ์ ดีอ่อน นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากประกาศจังหวัดเชียงใหม่ห้ามปล่อยโคมลอยในพื้นที่ อ.เมือง เนื่องจากอยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ตาม พ.ร.บ. เดินอากาศปี 2562 นั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา(11 พ.ย.62)ถือว่าเป็นการทำงานที่ล้มเหลว

ต้านไม่อยู่ปล่อยโคมลอยนับหมื่น นทท. แน่นสะพานนวรัฐ แม้ขู่ใช้กฎหมายเอาผิด

โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการเข้าประชุมเป็นการด่วนในเช้าวันนี้ (12พ.ย.62) เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจะเสนอเรื่องต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างชัดเจนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่ผ่านมาทำงานแบบต่างคนต่างทำไม่ได้มีการวางแผนประสานงานการทำงานก่อนลงพื้นที่ ซึ่งก่อนลงปฏิบัติจะต้องมีการซักซ้อมการทำงานให้เป็นแนวทางเดียวกัน

ต้านไม่อยู่ปล่อยโคมลอยนับหมื่น นทท. แน่นสะพานนวรัฐ แม้ขู่ใช้กฎหมายเอาผิด

แนวทางการแก้ไขปัญหาในวันนี้ (12 พ.ย.62) จะขอความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่อยู่ในเขตอำเภอเมือง ประมาณ 300 คน เข้ามาช่วยในการดูแลความเรียบร้อย โดยจะทำงานควบคู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูแลพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณสะพานนวรัฐ ซึ่งเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปปล่อยโคมเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น จะทำการสกัดกั้นนักท่องเที่ยวที่ถือโคมลอยเข้ามาในพื้นที่ต้องแจ้งและทำความเข้าใจห้ามปล่อยโคมลอยเด็ดขาด

ขณะเดียวกันต้องมีการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะป้ายห้ามปล่อยโคมลอยที่ติดไว้บริเวณสะพานนวรัฐอยู่ต่ำ นักท่องเที่ยวยืนบังทำให้มองไม่เห็น จะต้องมีการยกป้ายให้สูงขึ้น ต้องมีการเดินแจกแผ่นพับอย่างทั่วถึง รวมทั้งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ที่มีการแจกโคมลอยให้กับนักท่องเที่ยวว่าไม่สามารถทำได้ รวมทั้งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่นำโคมลอยมาเดินเร่ขายในบริเวณดังกล่าวต้องห้ามนำมาจำหน่าย

อย่างไรก็ตามการดำเนินการในวันนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้น สำหรับในระยะยาวจะต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง เพื่อหาหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างจริงจัง เนื่องจากการปล่อยโคมลอยได้รับอนุญาตให้ปล่อยมาอย่างยาวนาน การจะยกเลิกห้ามปล่อยจึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

ด้าน นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่กล่าวว่า วานนี้ (11พ.ย.62) ซึ่งเป็นวันลอยกระทง มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณสะพานนวรัฐ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินถือโคมลอยเข้ามาปล่อยเป็นจำนวนมากประมาณ 10,000 ลูก

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจยึดโคมลอยที่พ่อค้าแม่ค้า เดินจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว และได้ทำการยึดโคมมาเก็บไว้ได้ประมาณ 2,000 ลูก โดยให้เจ้าของมารับโคมลอยคืนพร้อมกับจ่ายค่าปรับหลังจากช่วงเทศกาลเสร็จสิ้น แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีเจ้าของมาขอรับของคืน

จากที่เจ้าหน้าที่สอบถามนักท่องเที่ยวที่เดินถือโคมเข้ามาบริเวณสะพานนวรัฐ บอกว่าทางโรงแรมที่พักแจกให้กับนักท่องเที่ยวสามาถรนำมาปล่อยได้ในบริเวณสะพานนวรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจ้งและทำความเข้าใจว่าไม่อนุญาตให้ปล่อยได้ เป็นพื้นที่ห้ามปล่อยโคมลอย แต่เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่มีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามานับหมื่นคน ทำให้ให้ไม่สามารถห้ามได้ทั้งหมด จึงมีการปล่อยโคมลอยขึ้นไป

จากการควบคุมดูแลห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวปล่อย และห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายโคมลอยนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการห้ามและปล่อยกันมาเป็นเวลานานจนกลายเป็นประเพณีนิยมที่ไม่ใช่ประเพณีดั้งเดิมของล้านนา การแก้ไขปัญหาจึงต้องไปแก้ที่จุดเริ่มต้นที่การผลิตโคม ต้องมีความเข้มงวดในการการผลิต ผู้ผลิตต้องได้รับอนุญาต โดยต้องผลิตให้ได้มาตรฐานที่กำหนด

การจำหน่ายต้องได้รับอนุญาตให้สามารถจำหน่ายได้เท่านั้น การแก้ไขปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานต้องใช้เวลาในการทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวได้ทราบข้อมูลยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ต้องมีความเข้มงวดมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายในลานบินท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่เจ้าหน้าที่ได้เก็บโคมลอยที่ตกลงในบริเวณ รันเวย์ แท็กซี่เวย์ และสนามหญ้า ภายในท่าอากาศบานจำนวนทั้งสิ้น 21 ลูก แบ่งเป็นขนาด ขนาดใหญ่มากกว่า 70 ซม. ขึ้นไป 3 ลูก ,ขนาดกลางมากกว่า 50 ซม. แต่ไม่เกิน 70 ซม. 8 ลูก และ ขนาดเล็ก ไม่เกิน 50 ซม. 10 ลูก

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจตราตลอดเวลาหากพบจะรีบออกไปจัดเก็บทันทีเพื่อความปลอดภัยของอากาศยานที่จะขึ้นลงในบริเวณท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม ทางท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ได้ฝากประชาสัมพันธ์ในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทงนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวเผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เนื่องจากผู้โดยสารมีจำนวนมากและการจราจรค่อนข้างติดขัด

related