"หลวงปู่บุญอุ้ม" เกจิอาจารย์ชื่อดัง จ.นครพนม เจ้าตำรับ “ตะกรุดไม้ไผ่สีสุก” ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เป็นที่น่าอัศจรรย์บรรดาไก่ป่าที่หลวงปู่เลี้ยงไว้ ตลอดจนนกกาบนต้นไม้ต่างส่งเสียงร้องระเบ็งเซ็งแซ่ คล้ายอาลัยในการจากไปของพระผู้มีเมตตาสูงแห่งวัดป่าโนนแพง
วันนี้ (22 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดป่าโนนแพง หมู่ 5 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม คณะลูกศิษยานุศิษย์และลูกหลาน ญาติพี่น้องของหลวงปู่บุญอุ้ม อาภัสสโร เจ้าอาวาสวัดบ้านป่าโนนแพง และเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ ในเวลา 05.09 น. สิริอายุรวมได้ 64 ปี พรรษา 29
โดยก่อนหน้านี้ หลวงปู่บุญอุ้มอาพาธด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือด แต่ด้วยความที่ท่านมีจิตเมตตาสูง จึงรับกิจนิมนต์จากญาติโยมเหมือนไม่ได้เจ็บป่วย โดยเฉพาะพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ทุกครั้งที่พบเจอสาธุชนในพิธีต่างๆท่านจะยิ้มร่าเริงตลอดเวลา จนบางครั้งหลังอธิษฐานจิตต้องนำท่านส่งโรงพยาบาลประจำ ล่าสุดอาการกำเริบหนักลูกศิษย์จึงนิมนต์ท่านมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม
ซึ่ง นพ.ยุทธชัย ตริสกุล ผอ.โรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่าทุกครั้งที่หลวงปู่มีอาการอาพาธ ทางคณะแพทย์ พยาบาล จะดูแลท่านอย่างใกล้ชิด เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม แพทย์การตรวจวัดความดันยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ กระทั่งถึงวันที่ 21 ตุลาคม(วานนี้) เวลาประมาณ 12.00 น. ความดันเริ่มลดลงเรื่อยๆ คณะศิษยานุศิษย์มีความเห็นว่า ควรนำท่านไปละสังขารที่วัดป่าโนนแพง ทางโรงพยาบาลจึงจัดรถพยาบาลนำหลวงปู่กลับวัด แต่เมื่อหลวงปู่กลับถึงกุฏิ ปรากฏว่าความดันกลับมาเป็นปกติโดย ขณะที่ญาติโยมทราบถึงอาการของหลวงปู่บุญอุ้มว่าทรุดหนัก ต่างเดินทางมายังบริเวณกุฏิของหลวงปู่จนแน่น พร้อมทำพิธีขอขมา
หลังหลวงปู่กลับถึงวัด ก็มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากวัดต่างๆ อาทิ หลวงปู่กัณหา สัญญกาโม วัดนาเรียงถ้ำคิ้ว ต.นางัว อ.บ้านแพง ฯลฯ เดินทางมาเยี่ยมอาการอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ด้านนอกมีญาติโยมร่วมสวดมนต์ถวาย บำรุงธาตุขันธ์หลวงปู่บุญอุ้ม ด้วยบทสวดบทโพชฌงค์ปริต กับบทสวดอุณหิสสวิชัยสูตร พระสูตรต่ออายุตลอดทั้งคืน กระทั่งเวลา 05.09 น. หลวงปู่บุญอุ้มก็ได้ละสังขารอย่างสงบ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์บรรดาไก่ป่าที่หลวงปู่เลี้ยงไว้ ตลอดจนนกกาบนต้นไม้ต่างส่งเสียงร้องระเบ็งเซ็งแซ่ คล้ายอาลัยในการจากไปของพระผู้มีเมตตาสูงแห่งวัดป่าโนนแพง
ทางนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง ได้รายงานการละสังขารต่อนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อประชุมดำเนินงานการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ โดยเบื้องต้นทางวัดได้มีการจัดสถานที่บริเวณด้านหน้ากุฏิของหลวงปู่บุญอุ้ม เช่นเต็นท์ เก้าอี้ ไว้รองรับผู้ที่จะมาร่วมงาน ซึ่งขณะนี้สรีระสังขารของหลวงปู่อยู่ในกุฏิ
หลวงปู่บุญอุ้ม อาภัสสโร หรือพระครูไพศาลธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เป็นพระเกจิที่มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ เป็นพระสายป่าที่สืบทอดสายธรรมจากหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร วัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เกิดเมื่อวันที่23ตุลาคม พ.ศ.2498ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม บิดาชื่อนายอ่อนศรี (หรือหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร ในกาลต่อมา)มารดาชื่อนางทิพย์ อภัยโส เป็นบุตรคนที่3ในจำนวน6คน
ครั้นอายุ13ปีหลังเรียนจบประถมปีที่4แล้ว ได้บรรพชาเป็นสามเณร ติดตามหลวงปู่มหาเหรียญธุดงค์ไปปักกลดตามป่าดงดิบหลายจังหวัด เช่น นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สระบุรี และอีกหลายจังหวัดทางภาคเหนือ เป็นเวลากว่า5ปี กระทั่งอายุ29ปี เมื่อวันที่4กุมภาพันธ์2527ได้อุปสมบทที่วัดศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีหลวงปู่คำพันธ์ จันทุปโม เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ไปจำพรรษาบนเทือกเขาภูลังกา ภายในถ้ำมืด ถ้ำโขง ร่วมกับหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร บิดา อายุ70ปี เพื่อนั่งสมาธิ ฝึกจิตเป็นเวลาถึง18ปี และออกธุดงค์ไปกับสามเณรอีก2รูป ในภาคเหนือ ก่อนย้อนกลับมาจังหวัดนครพนม เพื่อดูแลบิดาที่อาพาธ2 – 3ปี เมื่อหลวงปู่อ่อนศรี บิดาก็ได้ละสังขารไปเมื่อ7ตุลาคม2545ท่านได้ยกที่ดินหัวไร่ปลายนา จำนวน20ไร่ อยู่ในเขตหมู่ 5 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง ให้เป็นสำนักสงฆ์ ต่อมาขออนุญาตตั้งชื่อ วัดป่าโนนแพง และแต่งตั้งให้หลวงปู่บุญอุ้มเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ปี พ.ศ.2543 หลวงปู่บุญอุ้ม อาภสฺสโร ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม นาน 2-3 ปี ก่อนจะได้ลาออกให้พระรุ่นใหม่ปกครองคณะสงฆ์แทน ประกอบกับต้องดูแลมารดาที่บวชเป็นชีที่วัด และป่วยจนวาระสุดท้ายและมรณกรรม เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2550
เมื่อสิ้นมารดาท่านได้ธุดงค์ข้ามโขง ฝึกสมาธิตามป่าเขาลำเนาไพรในฝั่งประเทศลาว เน้นการปฏิบัติตามรอยหลวงปู่มหาเหรียญ และหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร ผู้เป็นบิดา นั่งสมาธิวิปัสสนาจนมีจิตเข้มแข็ง
ต่อมานายฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส. นนทบุรี ได้ถวายตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นตำราภาษาขอม มี 4 หมวด คือ กฎหมาย โคลงกลอน ยาสมุนไพร และวิทยาคม หลวงปู่บุญอุ้มได้เลือกศึกษาหมวดสุดท้ายคือ วิทยาคม ใช้เวลาศึกษาอยู่ 1 ปี และในปี พ.ศ.2545 สร้างวัตถุมงคลตะกรุดแผ่นยันต์ทองเหลืองเป็นครั้งแรก
ด้านเครื่องรางที่ท่านได้สร้างขึ้นเป็นที่รู้จักคือ และเป็นเจ้าตำรับ คือ ตะกรุดหนังงูเหลือม ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดไม้ไผ่สีสุก โดยในปี พ.ศ.2551 สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้กราบนิมนต์ท่านจัดสร้างตะกรุดไม้ไผ่สีสุก ซึ่งทำจากไม่ไผ่สีสุกลงอักขระติดแผ่นทอง แล้วนิมนต์ท่านนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ถึง 2 ครั้ง และในปี พ.ศ.2552 นำไปแจกทหารถึงค่ายทหารตามจังหวัดต่างๆ
นอกจากจะเป็นพระเกจิอาจารย์แล้ว หลวงปู่บุญอุ้มท่านยังเป็นพระนักปฏิบัติ ให้ความสำคัญทางด้านการศึกษา ด้วยการส่งเสริมการเรียน การศึกษา ได้บริจาควัตถุปัจจัยให้แก่ภิกษุ สามเณร อุปการะสนับสนุนการศึกษา โรงพยาบาล โรงเรียน วัดวาอาราม สาธุชนผู้ตกทุกได้ยากมิได้ขาดการละสังขารของท่านจึงทำให้ญาติโยมเศร้าโศก และวันที่ 23 ตุลาคม นี้ จะเป็นวันครบรอบ 64 พรรษาของท่าน ย่างสู่อายุ 65 ปี
ขอคุณภาพ: นิรันดร์ กงวงษ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-สิ้นตำนานเกจิดังกรุงเก่า “หลวงพ่อเพิ่ม” ละสังขารสิริอายุ 93 ปี
-“หลวงปู่หลำ” พระเกจิดังเมืองกาฬสินธุ์ ละสังขารแล้วตรงตามคำสั่งเสีย [คลิป]