"ธรรมนัส" เคลียร์ทุกปม ยันไม่ใช่มาเฟีย ไม่เคยขนยาเข้าออสซี่

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ผู้ที่ได้รับการโปรดเกล้าให้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดใจถึงข้อครหาในอดีตหลายประเด็น โดยเริ่มจากคดีค้ายาเสพติด ที่โดนจับในประเทศออสเตรเลียถือเป็นเรื่องโอละพ่อ ยืนยันว่าไม่ใช่คนที่นำเฮโรอีนเข้าออสเตรเลีย ไม่ได้เป็นผู้ผลิต และไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เริ่มจากที่ตนเดินทางไปเที่ยวนครซิดนีย์ โดยได้รับคำเชิญจากพี่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ใน ป.ป.ส.ของสหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงเดินทางเข้าออสเตรเลียโดยผ่านการตรวจค้นอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน แต่ตนโชคร้าย เพราะคนที่ถูกจับนั้นกลับอยู่ที่เดียวกับที่ตนอยู่ด้วย จึงโดนข้อหารู้ว่ามียาเสพติด แต่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ ไม่ได้โดนข้อหาผลิตยาเสพติดและนำเข้า จากนั้น ถูกคุมขังอยู่ 8 เดือน จนถูกปล่อยออกมาใช้ชีวิตตามปกติในนครซิดนีย์ 4 ปีเต็ม ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมาประเทศไทย แต่ไม่ได้มารับโทษ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นตราบาปมานานกว่า 30 ปีที่ตนไม่เคยได้พูด แต่เหตุที่ถูกโจมตีเพราะสื่ออวตารเห็นว่าตนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงรัฐบาล จึงมีความพยายามสกัดกั้น ขณะนี้รู้ตัวผู้โจมตีหมดแล้ว และกำลังจะดำเนินคดีกลับทั้งหมด

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า หลังจากกลับมาปี 2539 มีการออกพระราชบัญญัติล้างมลทิน จึงขอกลับเข้ามารับราชการ โดยใช้ยศเดิม คือร้อยโท เป็น ร้อยโท พชร พรหมเผ่า ประมาณปี 2540 พอปี 2541 วันที่ 1 มิถุนายน 2541 ได้รับเลื่อนยศเป็นว่าที่ร้อยเอกจนประมาณเดือนสิงหาคม 2541 เกิดเหตุการณ์ คดีฆาตกรรมด็อกเตอร์คนหนึ่ง ซึ่งตนไม่มีความเกี่ยวข้อง แต่คนที่ทำเป็นลูกน้อง จากนั้นตนถูกกองปราบนำไปเป็นผู้ต้องหาร่วม ต่อสู้คดีมาตั้งแต่ปี 2541 ถูกคุมตัว 3 ปี 1 เดือนในเรือนจำ ไม่ได้รับการประกันตัว จนปี 2544 ได้รับการประกันตัวแล้วออกมาสู้คดีข้างนอก สู้คดีจนปี 2547 ศาลสั่งยกฟ้องจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 5-6 ทั้งหมด มีจำเลยที่รับสารภาพ คือจำเลยที่ 2 ที่ศาลตัดสินจำคุก 9 ปี ซึ่งคดีก็จบไป อัยการไม่อุทธรณ์ ตนถูกศาลยกฟ้อง

ส่วนคดีที่ตนมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทที่โกงบิตคอยน์ของชาวฟินแลนด์ นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า บ.ดีเอ็นเอที่ตนซื้อหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และบังเอิญว่าคนที่ซื้อหุ้นบริษัทนี้ไปเกี่ยวข้องกับคนที่โกงบิตคอยน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนแล้ว ตนไม่เกี่ยวข้อง และอยู่ในฐานะพยาน ไม่ใช่ผู้ต้องหา

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีบริษัทที่เป็น 1 ใน 5 เสือที่ได้สัมปทานซื้อสลากกินแบ่งจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านยอมรับว่าใช่ แต่หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ได้เข้ามาบริหาร เป็นประธานกองสลากฯ 5 เสือกองสลากฯ ถูกสลายตัวหมดแล้ว เวลานี้การจำหน่ายสลากกินแบ่งของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำผ่านแบงก์กรุงไทย ผ่านมูลนิธิ องค์กรกุศล ไม่มี 5 เสือแล้ว ไม่เหลือแล้ว บริษัทตนก็เช่นเดียวกันถูกสลายไปหมดเช่นกัน แต่ว่าธุรกิจการค้าขายสลากฯ เป็นธุรกิจครอบครัว ซึ่งมีแผงอยู่ทั่วประเทศ ปัจจุบันก็แค่ทำให้ลูกน้องมีอาชีพอยู่ได้เท่านั้น และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงกรณีได้รับความไว้วางใจให้นั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะตนเป็นลูกชาวนา อยู่กับดินมาก่อน ดังนั้นจึงเข้าใจพื้นฐานของประชาชน รู้ว่าปัญหาเกษตรกรคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่เกษตรกรต้องการ