ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทอินเทล บริษัทควอลคอมม์และบริษัทบอรด์คอม ผู้นำด้านซอฟท์แวร์ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน เป็นบริษัทสามเจ้าล่าสุดที่ออกมาแบนข้อตกลงทั้งหมดที่ทำไว้กับหัวเว่ย โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที ตามหลังบริษัทกูเกิ้ลที่เพิ่งจะออกมาประกาศระงับความร่วมมือกับหัวเว่ยเช่นกัน โดยรายงานระบุว่า พนักงานของบริษัทเหล่านั้นได้รับแจ้งว่า พวกเขาจะยุติข้อตกลงทั้งหมดที่ทำกับหัวเว่ยไว้ทั้งหมดจนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันนี้ อินเทลเป็นผู้จัดส่งการ์ดเซิร์ฟเวอร์และตัวประมวลข้อมูลให้แก่หัวเว่ยสำหรับผลิตภัณฑ์ในตระกูลแลปทอป ขณะที่บริษัทควอลคอมม์เป็นผู้จัดส่งโมเด็มและตัวประมวลข้อมูลให้ อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยสามารถผลิตตัวประมวลข้อมูลและโมเด็มเองได้แล้ว ดังนั้นในส่วนนี้จะไม่มีผลกระทบมากนัก
นอกจากนี้ แหล่งข่าวของบลูมเบิร์กยังรายงานอีกด้วยว่า หัวเว่ยได้เตรียมสต๊อกสินค้าจากบริษัทสัญชาติอเมริกันเอาไว้แล้วซึ่งจะเพียงพอใช้ในระยะเวลาอย่างน้อยสามเดือน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐโดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษที่จะมีผลบังคับห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีโทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติที่เชื่อว่าจะมีความเสี่ยงเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ แม้จะไม่มีการระบุชื่อบริษัท แต่หลายฝ่ายก็คาดการณ์กันว่าเป็นบริษัท หัวเหว่ย ของจีน โดยหลังจากนั้นเหริน เจิ้งไฮ่ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัทหัวเว่ย ยันยันว่า หัวเว่ยไม่ได้ต้องการความร่วมมือจากบริษัทสัญชาติอเมริกัน โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่นที่นครเซิ่นเจิ้นของจีน ย้ำว่า บริษัทจะไม่เป็นอะไร