svasdssvasds

"สภาทหารผ่านศึก" ยัน! ไม่ทอดทิ้ง "ทหารผ่านศึก" ไฟเขียวเพิ่มค่าครองชีพแก่ผู้เสียสละ

"สภาทหารผ่านศึก" ยัน! ไม่ทอดทิ้ง "ทหารผ่านศึก" ไฟเขียวเพิ่มค่าครองชีพแก่ผู้เสียสละ

สภาทหารผ่านศึกยัน ไม่ทอดทิ้งทหารผ่านศึก เห็นชอบปรับเพิ่มค่าครองชีพ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เสียสละเพื่อชาติที่พิการ ทุพพลภาพ ให้มีคุณภาพชีวิตดีตามความเป็นจริง

วันนี้( 29 มี.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึก ได้ประชุม สภาทหารผ่านศึก ครั้งที่ 1/61 โดยได้ร่วมกันพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการยกระดับคุณภาพชีวิตของทหารผ่านศึกและครอบครัว ให้สอดคล้องกับสภาพสังคม เศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือน

ที่ประชุม เห็นชอบร่วมกันในการเพิ่มเงินสงเคราะห์ทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้น 1 ( ผู้ที่พิการทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ , ผู้ที่ได้รับเหรียญกล้าหาญ , ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดีด้วยความกล้าหาญ และครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตในสนามรบ ) โดยให้เพิ่มเงินเลี้ยงชีพรายเดือน , เงินช่วยเหลือค่าครองชีพเพื่อผดุงเกียรติเป็นรายเดือน และเงินเชิดชูเกียรติ จะมีผลตั้งแต่ 1 มิ.ย. 61 เป็นต้นไป สำหรับเงินช่วยเหลือครั้งคราว ที่ให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึกนอกประจำการทุกชั้นบัตรและผู้ถือบัตรประจำตัวครอบครัวทหารผ่านศึก บัตรชั้นที่ 1 จะมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.61 เป็นต้นไป ทั้งนี้จะได้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสภาทหารผ่านศึกและทหารนอกประจำการ พ.ศ. 2522 ให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนด

สำหรับ การปรับเพิ่ม เงินช่วยเหลือรายเดือน แก่ทหารผ่านศึกนอกประจำการประเภท บัตร ชั้น 2,3 และ 4 ที่พิการทุพพลภาพหรือพิการ รวมทั้งเงินสงเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลแก่ทหารผ่านศึกทุกชั้นบัตรและครอบครัว สภาทหารผ่านศึก ได้เห็นชอบแล้ว เมื่อ 28 ธ.ค.60 โดยจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 มี.ค. 61 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การปรับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพดังกล่าว จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างขวัญกำลังใจกับครอบครัวของ ทหาร ตำรวจและพลเรือน ที่เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัวในการปกป้องประเทศชาติ ให้สามารถดำรงชีพอย่างพอเพียง

[gallery size="full" ids="223573,223574,223575,223576,223577,223578"]