svasdssvasds

17 ส.ค. ของทุกปีเป็น วันยกย่องแมวดำ ทำไมคนโบราณเชื่อว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้

17 ส.ค. ของทุกปีเป็น วันยกย่องแมวดำ ทำไมคนโบราณเชื่อว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้

แมวดำออกจะน่ารัก! มาลบล้างคำสาปให้แมวดำกัน รู้หรือไม่ แมวจรจัดส่วนใหญ่ในสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรมักเป็นแมวดำ อีกทั้งยังถูกทุบปี ถูกไล่และถูกคร่าอย่างไม่เป็นธรรมด้วย

ตอนเด็ก ๆ ใครหลายคนน่าจะเคยได้ยินพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายเตือนว่า เมื่อเจอแมวดำอย่าเข้าไปใกล้หรือกระโดดข้ามหัว เดี๋ยวจะโชคร้าย หรือหากเห็นแมวดำกระโดดข้ามโลงศพ คนตายอาจจะฟื้นขึ้นมาหรือกลายเป็นผีดุ บนโลกนี้เรามีคำเตือนเรื่องแมวดำเยอะมาก ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น

อย่างในต่างประเทศ คนอิตาลีเชื่อว่าหากเห็นแมวดำนอนบนเตียงผู้ป่วย คน ๆ นั้นจะตายในเวลาต่อมา หรือคนจีนก็มีความเชื่อคล้าย ๆ กันกับคนไทย คือ หากแมวดำกระโดดข้ามโลงศพ คนตายจะกลายเป็นผีเหี้ยน หลายพื้นที่ทั่วโลกยังคงเชื่อว่า แมวดำเป็นความอัปมงคล

17 ส.ค. ของทุกปีเป็น วันยกย่องแมวดำ ทำไมคนโบราณเชื่อว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้ แล้วทำไมแมวดำจึงถูกสังคมเกลียดชังขนาดนี้ล่ะ

ในความเป็นจริง แมวดำอาจไม่ได้ผิดอะไร เพียงแค่ตัวมันเป็นสีดำ ซึ่งผู้คนสมัยก่อนอาจไม่ชอบสีดำก็เป็นไปได้ ซึ่งทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้ มีหลายคนพยายามหาคำตอบจากอดีตว่า ทำไมกัน ผู้คนจึงกีดกันแมวดำออกจากสังคมได้มากขนาดนี้

สีดำ เป็นสีแห่งความตาย และนิสัยเป็นแมวขโมย

ทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า ในสมัยก่อน ที่แมวยังไม่เป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์อย่างเป็นทางการ และมันยังคงเป็นสัตว์เร่ร่อนอยู่ ทำให้แมวต้องหาอาหารเอง ซึ่งก็คือการขโมยอาหารตามบ้านต่าง ๆ บวกกับสีดำทำให้ผู้คนมักมองไม่เห็น และหน้าตาที่อาจจะนิ่งสงบ เคร่งครึม ดังนั้น ทั้งรูปลักษณ์ พฤติกรรมของแมวดำและสีดำเป็นสีแห่งความตาย เลยอาจทำให้แมวดำไม่เป็นที่ชื่นชอบเท่าไหร่นัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แมวดำในตำนานเทพเจ้ากรีก

อีกทฤษฎีหนึ่ง ย้อนไปไกลมาก ๆ คือ ในสมัยกรีกโบราณ ตามตำนานของเทพเจ้ากรีก ครั้งหนึ่ง เฮรา (Hera) ภรรยาของเทพซุส ได้เปลี่ยนคนรับใช้ของเธอ กาลินเทียส (Galinthias) ให้กลายเป็นแมวดำ เพื่อเป็นการลงโทษที่ขัดขวางการให้กำเนิดเฮอร์คิวลิส

เมื่อกลายเป็นแมวดำ กาลินเทียสถูกส่งให้ไปรับใช้เฮคาเต้ (Hecate) เทพีแห่งคาถา หลังจากนั้นแมวดำก็มีความหมายที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัฒนธรรมทั่วโลก แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องในตำนานที่เล่าขานกันมาเท่านั้น

17 ส.ค. ของทุกปีเป็น วันยกย่องแมวดำ ทำไมคนโบราณเชื่อว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้ ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ เมื่อรู้ว่า แม่มดเลี้ยงแมวดำ

อีกทฤษฎีหนึ่ง ซึ่งนิยมมาก ๆ ถึงความเป็นไปได้มากที่สุด ของที่มาความเกลียดชังในแมวดำ คือ ทฤษฎีของยุคล่าแม่มด ตามการเล่าของเว็บไซต์ History เล่าว่า มีบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษร ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 13 มีเอกสารอย่างเป็นทางการของคริสตจักรที่เรียกว่า “Vox in Rama” ที่เขียนโดย Pope Gregory IX เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1233 โดยมีการระบุว่า “แมวดำเป็นร่างอวตารของซาตาน”

Layla Morgan Wilde ผู้เขียนเรื่อง Black Cats Tell: True Tales And Inspiring Images กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนและการตามล่าแม่มด ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในลัทธิลูซิเฟอร์เรียนที่กำลังขยายแนวคิดผิด ๆ ในเยอรมนี และทั่วยุโรป

ต่อมาในช่วงยุโรปยุคกลาง แม่มดเริ่มถูกล่ามากขึ้น หลังจากถูกมองว่าเป็นพวกนอกรีตที่ไม่อยู่ในหลักคำสอนทางศาสนา เกิดการล่าแม่มดครั้งใหญ่ ใครที่ถูกต้องสงสัยว่าเป็นแม่มด จะถูกจับไปทรมาน และถูกฆ่าด้วยการเผา ในช่วงเวลานั้น มีผู้หญิงถูกฆ่าทั้งเป็นจำนวนมาก

Cr. Carole Linda Gonzalez

นอกจากชาวเมืองจะเกลียดชังแม่มดแล้ว แมวดำก็ถูกเกลียดชังด้วย ผู้คนสมัยนั้นมองว่า แมวดำมักกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด อีกทั้ง แม่มด สามารถแปลงร่างเป็นแมวดำได้ และแมวดำมักเป็นสัตว์รับใช้ของแม่มด ดังนั้น เมื่อเห็นแมวดำเมื่อไหร่ นั่นอาจเป็นแม่มดก็ได้

ดังนั้น ไม่เพียงแค่แม่มดเท่านั้นที่ถูกกวาดล้าง แมวดำก็ถูกกวาดล้างด้วยเช่นกัน ด้วยข้อหาเป็นสมุนของปีศาจ ซึ่งเวลาต่อมา แมวดำกับแม่มดก็ถูกสร้างกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในเทศกาลฮาโลวีน

17 ส.ค. ของทุกปีเป็น วันยกย่องแมวดำ ทำไมคนโบราณเชื่อว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้ แต่การกวาดล้างแมวดำ ทำให้ผู้คนพึงพอใจได้ไม่นาน เมื่อประชากรแมวลดลง ประชากรหนูก็เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษ ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดหนักในยุโรปและสหราชอาณาจักร ทำคนเสียชีวิตไปมากกว่า 25 ล้านคน

แต่ผู้คนก็ไม่ได้ลดละความเกลียดชังต่อแมวลงไป เนื่องจากเชื่อว่า กาฬโรคเหล่านี้เกิดจากความพิโรธของพระเจ้าที่มอบให้แก่มนุษย์ที่เสื่อมศรัทธาต่อพระองค์ และกลุ่มคนผู้นั้นคือพวกนอกรีต หรือแม่มด

ยังมีประเทศใจดี ที่ยกย่องแมวดำว่านำความโชคดีมาให้

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับแมวดำเหล่านี้ แพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างไร คงไม่มีใครทราบได้แน่ชัด แต่สำหรับแมวดำในประเทศนั้น ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้าง เพราะบางประเทศก็ยกย่องแมวดำในทางตรงกันข้าม คือ แมวดำนำความโชคดีมาให้

เช่น ในสกอตแลนด์ คุณจะโชคดีหากมีแมวดำมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวประตูหน้าบ้านของคุณ ส่วนคนญี่ปุ่นก็เชื่อว่า แมวดำจะช่วยให้คนโสดมีคู่ครองเร็ว ๆ นี้

อียิปต์ยกย่องแมวดำ ด้วยเชื่อว่า แมวดำเป็นลูกหลานของเทพ Bastet ของอียิปต์ผู้ซึ่งมีพลังเหนือธรรมชาติ และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เชื่อว่า แมวดำน่ารัก ไม่ใช่น่ากลัว

รูปปั้นแมวดำ ที่คนอียิปต์ทำขึ้นเพื่อยกย่องแมวดำลูกหลานของเทพเจ้า ตำนานเรื่องแมวดำยังมีอีกเยอะมากให้ได้สืบค้น และต้องย้ำว่า ส่วนใหญ่มักเป็นตำนานที่เล่าขานกันมา ไม่ได้มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้จริง

เพราะความเชื่อผิด ๆ ทำให้แมวดำถูกทรมานด้วยการใส่ร้ายมาหลายร้อยปีแล้ว

หลายประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักร (UK) พบว่า สถิติแมวไร้บ้านประมาณพันกว่าตัว ประมาณ 70% ในนั้น เป็นแมวดำ ไม่ก็ดำปนขาว พวกมันไม่ถูกรับเลี้ยง และมีอัตราการเร่ร่อนที่มากกว่าสีอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

ในสหรัฐอเมริกา แมวดำเองก็มีอัตราการถูกรับไปเลี้ยงต่ำมาก ไม่มีใครอยากอุปถัมป์แมวดำ นอกจากนี้แมวดำตามศูนย์พักพิงยังมีอัตราการถูกการุณยฆาตสูงกว่าแมวสีอื่น ๆ ด้วย ด้วยเหตุผลเดิมคือ ไม่น่ารัก ถ่ายรูปไม่ขึ้น และอาจนำพาความโชคร้ายมาให้แก่ครอบครัวผู้รับเลี้ยง นี่ยังไม่นับรวมกับกรณีรับแจ้งจากอีกหลายประเทศที่รายงานว่า แมวดำมีอัตราการถูกไล่ ทำร้าย ทุบตี เจ็บป่วย และตายมากกว่าแมวสีอื่น ๆ

17 ส.ค. ของทุกปีเป็น วันยกย่องแมวดำ ทำไมคนโบราณเชื่อว่า แมวดำนำโชคร้ายมาให้ ด้วยเหตุนี้ โลกจึงมี “วันยกย่องแมวดำ” เกิดขึ้น

ทุกวันที่ 17 ส.ค. ของทุกปี ถูกจัดให้เป็น วันยกย่องแมวดำ (Black Cat Appreciation Day) เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงคุณค่าของแมวดำ ว่ามีความสำคัญและความน่ารักไม่แพ้แมวสีอื่น ๆ เหมือนกันนะ

โดยในทุกปี ทาสแมวทั่วโลกจะร่วมกันโพสต์ภาพคู่กับน้องแมวของตนเอง พร้อมติดแฮชแท็ก #BlackCatAppreciationDay เพื่อขจัดความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับแมวดำให้ออกไปจากตัวน้องแมว และเพื่อให้พวกมันไม่ถูกทอดทิ้งจนกลายเป็นแมวจรจัด

ที่มาข้อมูล

History

Four Paws

Howl

SILPA MAG

related