svasdssvasds

28 ตุลาคม "วันแอนิเมชันนานาชาติ" อนิเมะคืออะไร?

28 ตุลาคม "วันแอนิเมชันนานาชาติ" อนิเมะคืออะไร?

วันแอนิเมชันนานาชาติ (International Animation Day) เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและยกย่องศิลปะแห่งการสร้างภาพเคลื่อนไหว หรือที่เรียกกันว่าแอนิเมชัน ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะที่ได้รับความนิยมและมีอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลกอย่างมาก

SHORT CUT

  • 28 ตุลาคม เป็นวันแอนิเมชันนานาชาติ
  • จุดประสงค์เพื่อ กระตุ้นให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานต่างๆ
  • อนิเมะ (Anime) เป็นคำย่อมาจากคำว่า แอนิเมชัน (Animation) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึง ภาพยนตร์การ์ตูน

วันแอนิเมชันนานาชาติ (International Animation Day) เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและยกย่องศิลปะแห่งการสร้างภาพเคลื่อนไหว หรือที่เรียกกันว่าแอนิเมชัน ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะที่ได้รับความนิยมและมีอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลกอย่างมาก

วันนี้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการโดย ASIFA (Association Internationale du Film d’Animation) ในปี 2002 เพื่อยกย่องศิลปะรูปแบบเฉพาะตัวนี้ ที่มักผสมผสานเทคโนโลยี การเล่าเรื่อง และศิลปะภาพเพื่อดึงดูดจินตนาการของผู้คนทั่วโลก 

 

อนิเมะ คืออะไร?

อนิเมะ (Anime) เป็นคำย่อมาจากคำว่า แอนิเมชัน (Animation) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึง ภาพยนตร์การ์ตูนนั่นเอง แต่เมื่อพูดถึง "อนิเมะ" ในวงกว้าง มักจะหมายถึง ภาพยนตร์การ์ตูนที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะเฉพาะทางศิลปะที่แตกต่างจากแอนิเมชั่นจากประเทศอื่นๆ

ความสำคัญของ วันแอนิเมชันนานาชาติ 

  • ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์: แอนิเมชันเป็นศิลปะที่เกิดจากจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด การมีวันเฉลิมฉลองจะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ
  • เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแอนิเมชัน: วันนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เทคนิค และกระบวนการผลิตแอนิเมชั่นให้กับผู้คนในวงกว้างมากขึ้น
  • ส่งเสริมอุตสาหกรรมแอนิเมชัน: การมีวันเฉลิมฉลองจะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมแอนิเมชั่นเติบโตและพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
  • สร้างแรงบันดาลใจให้กับแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่: วันนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างแอนิเมชั่นรุ่นใหม่ๆ ได้มุ่งมั่นและพัฒนาผลงานของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

เทคนิคการสร้างแอนิเมชัน

แอนิเมชันเป็นศิลปะที่หลากหลายและมีการพัฒนาเทคนิคอยู่ตลอดเวลา แต่โดยทั่วไปแล้ว เทคนิคการสร้างแอนิเมชันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลักๆ ดังนี้

1. แอนิเมชันแบบดั้งเดิม (Traditional Animation)

  • การวาดภาพมือ: เป็นวิธีการที่เก่าแก่ที่สุด โดยนักวาดจะวาดภาพแต่ละเฟรมทีละภาพ แล้วนำมาเรียงต่อกันเพื่อให้เกิดภาพเคลื่อนไหว
  • Cel Animation: เป็นการใช้แผ่นใส (Cel) วาดภาพตัวละครและฉาก แล้วนำมาวางทับกันบนฉากหลังที่วาดไว้บนกระดาษ
  • Stop Motion: เป็นการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวทีละเฟรม เช่น ดินน้ำมัน ตุ๊กตา หรือโมเดลต่างๆ

2. แอนิเมชันแบบคอมพิวเตอร์ (Computer Animation)

  • 2D Animation: ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการวาดภาพและสร้างภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบ 2 มิติ
  • 3D Animation: ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการสร้างแบบจำลอง 3 มิติของวัตถุและตัวละคร แล้วใช้คอมพิวเตอร์ในการคำนวณการเคลื่อนไหวและแสงเงา
  • Motion Graphics: เป็นการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่เน้นการออกแบบกราฟิกและเอฟเฟกต์ต่างๆ เพื่อใช้ในการนำเสนอข้อมูลหรือสร้างสรรค์ผลงานทางสายตา
     

ตัวอย่าง 2D Animation เรื่อง tom and jerry the movie จาก netflix

 

ตัวอย่าง 3D Animation เรื่อง the garfield movie จาก netflix

 

ตัวอย่าง Stop Motion เรื่อง Corpse Bride จาก netflix

 

 

 

 

related