จากเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์สารอันตรายที่ท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้บริเวณโดยรอบมีกลิ่นฉุนรุนแรง ซึ่งชุมชนในรัศมี 5 กิโลเมตร มีการเตือนให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ลานสินค้าอันตราย ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นตู้บรรจุสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ มีฤทธิ์กัดกร่อน ซึ่งได้มีการอพยพคนงาน 183 ราย และพบมีอาการทางเดินหายใจ 6 ราย ได้มีการปฐมพยาบาลพร้อมส่งต่อโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นที่เรียบร้อย
จากเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ครั้งนี้มีการเตือนชุมชนรัศมี 5 กิโลเมตรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แม้จะยังไม่พบผู้ได้รับผลกระทบก็ตาม
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ชนะแล้ว! ศาลปกครองสั่งก.อุตสาหกรรม จัดทำ PRTR หวังแก้วิกฤตฝุ่นควัน
ปี 2566 ไฟไหม้บ่อขยะในไทยแล้วกว่า 4 ครั้ง ซ้ำเติมปัญหาฝุ่นควันให้รุนแรงขึ้น
ภายในตู้คอนเทนเนอร์มีสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารกัดกร่อน บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษจำนวน 378 กล่อง กล่องละ 18 กิโลกรัม ทำให้บริเวณโดยรอบมีกลิ่นฉุนรุนแรง
สารชนิดนี้สามารถติดไฟได้ด้วยตนเองเพราะมีปริมาณ ออกซิเจนอยู่ในตัวเองสูง ทำให้เกิดการเผาไหม้ได้ดี นอกจากนี้เปอร์ออกไซด์ยังส่งผลสร้างการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก โดยจะสร้างอนุมูลอิสระอย่างรุนแรงและเป็นสารกัดกร่อน มีผลต่อสุขภาพในระยะสั้นและยาว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ต้องรีบล้างด้วยน้ำและสบู่ ถ้าเข้าตาต้องล้างด้วยน้ำปริมาณมากๆ ในทันที กรณีที่เผลอรับประทานเข้าไป ควรดื่มนมหรือน้ำแล้วรีบไปพบแพทย์ หรือหากหายใจเอาฝุ่นหรือละอองเข้าไปต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
สำหรับคำแนะนำในการจัดเก็บสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ให้ปลอดภัย โดยเฉพาะการเก็บในปริมาณมากๆ ต้องเก็บในอาคารที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สร้างด้วยวัสดุไม่ติดไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นชนิดป้องกันการระเบิด
ควรแยกเป็นเอกเทศห่างจากแหล่งที่อยู่อาศัย มีการตรวจสอบระบบควบคุมการทำงานของเครื่องทำความเย็นห้องเก็บและระบบสัญญาณเตือนภัยต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพใช้งานได้เสมอ และพนักงานควรมีการฝึกอบรมให้สามารถแก้ไขได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน