ใครไปเที่ยวอิตาลีดูไว้ เพราะการประท้วงสิ่งแวดล้อมและนักท่องเที่ยวที่ทำตัวไม่น่ารัก ทำให้อิตาลีต้องออกกฎใหม่ ห้ามทำลายสถานที่ทางวัฒนธรรม ไม่งั้นถูกปรับเป็นล้าน!
การประท้วงแทบจะเป็นเรื่องปกติของในหลายประเทศ แต่ถ้าการประท้วงเริ่มรุนแรงขึ้นถึงขั้นทำลายข้าวของหรือสร้างความเสื่อมเสียให้กับสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของประเทศก็คงจะไม่ไหว เหมือนอิตาลีในตอนนี้
อิตาลีเพิ่งผ่านกฎหมายใหม่ที่กำลังออกใช้เร็ว ๆ นี้กับบทลงโทษสำหรับใครก็ตามที่ทำลายอนุสาวรีย์หรือสถานที่ทางวัฒนธรรม และก็จะโดนคดีทางอาญาด้วย โดยจะต้องจ่ายค่าปรับตั้งแต่ 370,000-2,200,000 บาทโดยประมาณ นักท่องเที่ยวก็ไม่เว้นนะ
กฎหมายนี้มีขึ้น เนื่องจากความเหลืออดของอิตาลี อย่างที่ทราบกันดีว่า อิตาลีเป็นเมืองหนึ่งที่หวงแหนคุณค่าทางวัฒนธรรมมาก ๆ ก่อนหน้านี้ เกิดการประท้วงของกลุ่มนักอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้เข้าไปพ่นสีที่ศาลากลาง Palazzo Vecchio อาคารทางประวัติศาสตร์อายุ 700 ปี และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองด้วย
Mayor of Florence Dario Nardella stops an environmental activist who daubed paint on the facade of Palazzo Vecchio. March 17, 2023. pic.twitter.com/DmQcR4mxvJ
— Crazy Ass Moments in Italian Politics 🇮🇹 (@CrazyItalianPol) March 17, 2023
ผู้ประท้วงด้านสิ่งแวดล้อมไม่พอใจต่อนโยบายบางอย่างของรัฐบาล และได้เข้าโจมตีพิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์เมื่อปีที่แล้ว เพื่อเป็นการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์แต่ก็ตามมาด้วยความรุนแรงด้วยการทำลายชื่อเสียงของพื้นที่จัดแสดงทางศิลปะหลายแห่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขยะเกลื่อนปารีสกว่า 10,000 ตัน ผลจากประท้วงแรงงานต่อต้านเพิ่มอายุเกษียณ
จ่ายมาซะ! ผู้ประท้วงปาเค้กใส่หุ้นขี้ผึ้งกษัตริย์ชาร์ลส์ ศาลสั่งชดเชยยับ
ร้านอาหารของเชฟกอร์ดอน แรมซีย์ถูกบุก เพราะเมนูอาหารทำร้ายโลก
นักท่องเที่ยวที่นิสัยไม่ดี ก็สามารถถูกจับด้วยกฎหมายนี้ได้ด้วยเช่นกัน
แต่การทำลายล้างภาพลักษณ์นี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กับเหล่าผู้ประท้วงเท่านั้น กฎหมายนี้ยังสามารถใช้ได้กับนักท่องเที่ยวที่นิสัยไม่ดีด้วย
นับตั้งแต่อิตาลีเปิดประเทศชั่วคราวหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวได้หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไม่ขาดสาย แต่สิ่งที่ตามมาคือพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของนักท่องเที่ยว และความแออัดของผู้คนทำให้คนในท้องถิ่นเริ่มไม่พอใจ จึงนำไปสู่การใช้กฎหมายที่จะคุ้มครองการอยู่อาศัยของผู้คนในท้องถิ่นและเพื่อรักษาความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง
อิตาลีจับได้ว่า นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ทำตามกฎข้อห้าม เช่น การดื่มหรือรับประทานอาหารที่น้ำพุเก่าแก่จากศตวรรษที่16 และ การใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนบันไดสเปน เป็นต้น
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันคนหนึ่งวัย 43 ถูกปรับ 470 ยูโร หรือ ประมาณ 17,000 บาท เพราะเขาได้ขับเฟอร์รารีในจตุรัสคนเดินในเมืองฟลอเรนซ์ อกีทั้งเขาคนนี้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศด้วย
อีกเคสหนึ่ง ก็มีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯคนหนึ่ง ถูกปรับเพราะเขาขับรถข้ามสะพานประวัติศาสตร์ Ponte Vecchio จากศตวรรษที่ 10 ทั้ง ๆ ที่พื้นที่นี้ปิดไม่ให้รถสัญจรไปมาอยู่แล้ว และผู้ชับชี่ก็ไม่มีใบขับขี่สากลเหมือนกันเลย ทำให้ถูกปรับไป 500 ยูโร
ประท้วง ปัญหาโลกร้อน - Climate Change ทั่วทุกมุมโลก เรื่องนี้ต้องรีบแก้ด่วน
กฎหมายห้ามอะไรบ้าง?
หรือแม้กระทั่ง เมืองท่องเที่ยวชื่อดัง เมื่อไม่ได้รับการจัดการจำนวนผู้คนให้มีความเหมาะสม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่จริงด้วย มีท่องเที่ยวมากเกินไปจนรบกวนการใช้ชีวิตของผู้คนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวบางคนหยุดถ่ายภาพเซลฟี่จนทำให้ท้องถนนคับคั่ง
ด้วยเหตุนี้ นายกรัฐมนตรีจึงได้ออกกฎต่อต้านการเดินเตร็ดเตร่หรือการเดินเอ้อระเหยในสถานที่ท่องเที่ยว โดยการประกาศเป็นพื้นที่สีแดงซะเลยและหากฝ่าฝืนก็จะถูกปรับ 275 ยูโร หรือ 10,350 บาทโดยประมาณ
บางพื้นที่ก็มีการปรับให้รถทะเบียนเลขคี่ให้ใช้ในวันคู่ หรือทะเบียนเลขคู่ก็ใช้ในวันคี่สำหรับพื้นที่ในท้องถิ่นและท่องเที่ยว ยกเว้นเฉพาะคนในท้องถิ่นที่ได้รับการยกเว้น เพื่อลกการจราจรที่คับคั่งของนักท่องเที่ยวที่แห่กันไปชายฝั่งและทำให้รถติดกันยาว
เมืองท่องเที่ยวซอร์เรนโต ห้ามนักท่องเที่ยวสวมบิกินี่หรือเปลือยท่อนบนเมื่อปีที่แล้ว เพราะชุดว่ายน้ำมีไว้สำหรับเที่ยวทะเลดท่านั้น ดังนั้น ห้ามใส่เข้ามาในเมือง ฝ่าฝืนปรับ 500 ยูโร
เมืองเวนิช เมืองแห่งน้ำชื่อดังก็กำลังถกเถียงถึงกฎใหม่ โดยจะมีการเก็บภาษีนักเดินทางที่ไปเช้าเย็นกลับไม่ได้พักแรม โดยเรทจะแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นมีคนเยอะแค่ไหน และจะต้องจ่ายค่าเช้าชมคนละ 10 ยูโร หรือ 370 บาทก่อนเข้าเที่ยวในเมืองด้วย ซึ่งเงินส่วนนี้จะนำไปซ่อมบำรุงเมืองต่อไป แต่กฎนี้ยังคงถกเถียงกันอยู่ เพราะอาจทำให้มูลค่าหรือเม็ดเงินการท่องเที่ยวหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
โปรดเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี
หลายประเทศตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาผู้ประท้วงทำลายข้าวของและสร้างความเสื่อมเสียให้กับสถานที่หลายแห่ง ไม่เพียงแค่กับอิตาลีเท่านั้น การออกกฎแบบนี้ก็เพิ่มปกป้องสิ่งล้ำค่าทางประวัติศาสตร์เท่านั้น และเพื่อสร้างความสบายใจให้กับผู้เข้าเยี่ยมชมด้วย
และสำหรับนักท่องเที่ยว หกายังคงมีพฤติกรรมลักษณะนี้ ต่อไปอาจไม่เพียงแค่ถูกปรับเท่านั้น อาจมีการจับส่งประเทศต้นทางก็เป็นไปได้ เพราะคุณไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองของผู้อื่น ๆ ฉะนั้น โปรดเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ใจเขาใจเราด้วยนะ
ที่มาข้อมูล
ที่มารูปภาพหน้าปก : Photo by Laura Lezza/Getty Images