svasdssvasds

BYD Seagull หั่นราคาเหลือ 3.5 แสนบาท คาดปีนี้ลดเพิ่มอีก ตีตลาดแบรนด์ทั่วโลก

BYD Seagull หั่นราคาเหลือ 3.5 แสนบาท คาดปีนี้ลดเพิ่มอีก ตีตลาดแบรนด์ทั่วโลก

BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้เปิดสงครามด้านราคารถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง ล่าสุด BYD Seagull ได้ลดราคาเหลือเพียง 350,000 บาท ซึ่งถูกกว่ารถสันดาปทั่วไปเสียอีก ซึ่งนี่ชี้ให้เห็นถึงศึกใหญ่ของหลายแบรนด์คู่แข่ง

SHORT CUT

  • BYD หั่นราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Seagull เหลือเพียง 350,000 บาท ซึ่งถูกกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป 
  • BYD กำลังต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการลดราคารุ่น BYD Atto 3 ไปมากกว่าร้อยละ 12 ของราคาเปิดตัว 
  • อนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจะแข่งขันกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี,​ ดีไซน์ และสุดท้ายที่มีผลต่อยอดขายที่สุดคือ "ราคา" ที่ต้องเข้าถึงได้นั่นเอง

BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้เปิดสงครามด้านราคารถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง ล่าสุด BYD Seagull ได้ลดราคาเหลือเพียง 350,000 บาท ซึ่งถูกกว่ารถสันดาปทั่วไปเสียอีก ซึ่งนี่ชี้ให้เห็นถึงศึกใหญ่ของหลายแบรนด์คู่แข่ง

BYD ปรับลดราคารุ่น Seagull เหลือเพียง 69,800 หยวน หรือราวๆ 3.5 แสนบาท และนี่เป็นสัญญาณของสงครามในด้านราคารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยปรับลดราคา BYD Yuan Plus หรือ BYD Atto 3 กว่าร้อยละ 12 ซึ่งทำให้ถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆหลากหลายแบรนด์อยู่มาก 

Credit : BYD

อีกทั้งยังได้มีนักวิเคราะห์ประเมินว่า BYD มีแนวโน้มที่จะปรับลดราคารถยนต์อีกในปีนี้ ซึ่งก็จะทำให้กำไรของบริษัทลดลงเป็นจำนวนมาก

ท่ามกลางการเติบโตที่ไม่สม่ำเสมอของเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ยอดขาย (รวมถึงการส่งออก) รถยนต์พลังงานใหม่ เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่บริสุทธิ์ และปลั๊กอินไฮบริด คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13% เป็น 11.5 ล้านคันในปีนี้ ซึ่งช้ากว่าการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 38% ในปี 2566 อย่างมาก

BYD มีแนวโน้มที่จะเสนอส่วนลดเพิ่มเติมจนถึงปี 2024 Shi Ji นักวิเคราะห์จากฮ่องกงจาก China Merchants Bank International กล่าว และเสริมว่า สิ่งนี้จะกดดันอัตรากำไรขั้นต้นของแบรนด์ แต่ความเจ็บปวดอาจถูกชดเชยบางส่วนด้วยการลดต้นทุนโดยซัพพลายเออร์

Credit : Reuters

อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Warren Buffett จะต้องรักษาไว้ได้ดีพอสมควร โดยบันทึกอัตรากำไรขั้นต้น 22% ในไตรมาสที่สาม เพิ่มขึ้นจาก 18.7% ในไตรมาสที่สอง ตามการคำนวณของ Reuters

บีวายดี ยังได้ขยายการดำเนินงานในต่างประเทศอย่างจริงจังอีกด้วย ตัวอย่างเช่น เป็นหัวหอกในการผลักดันรถยนต์ EV ของจีนในออสเตรเลียและเริ่มก่อสร้างศูนย์การผลิตในบราซิล

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันถือว่ามีการแข่งขันกันสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี, การดีไซน์ หรือสุดท้ายแล้วก็จะมาแข่งขันกันในด้านราคา ซึ่งนี่เป็นผลประโยชน์ต่อผู้ใช้หรือลูกค้าอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ผลิตทุกเจ้าต้องทำราคาให้เข้าถึงได้ง่าย และสามารถใช้งานรถได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่ง BYD กำลังทำเช่นนั้น

ที่มา : Reuters

related