เปิด 5 วิธีป้องกันความเสี่ยงใช้ไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วงหน้าฝน

หน้าฝนเข้ามาเยือน ! การใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าก็ต้องระมัดระวังกันนิดหนึ่ง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แนะนำ5 วิธีป้องกันความเสี่ยงใช้ไฟ และอุปกรณ์ช่วงหน้าฝน ทำอย่างไรจะให้ประหยัดไฟฟ้า และปลอดภัย

เป็นที่ทราบกันดีว่าไฟกับน้ำมักจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ เพราะเวลาไฟถูกน้ำอาจทำให้เกิดการช็อตได้ มีข่าวตามสื่อต่างๆมากมายที่รายงานข่าวว่าคนถูกไฟช็อตเพราะตัวเปียก หรือน้ำท่วม หรือไฟที่บ้านไปโดนน้ำขึ้นมาจึงเกิดการช็อตเกิดขึ้นสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินขึ้นได้ วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพาไปดู 5 วิธีป้องกันความเสี่ยงใช้ไฟ และอุปกรณ์ช่วงหน้าฝน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เผย สิ่งที่ควรระวังในช่วงฤดูฝนอย่างหนึ่ง คือ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในขณะที่ฝนตก ซึ่งต้องมีความระมัดระวังยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ วิธีง่าย ๆ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงและป้องกันความเสี่ยงจากการใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์เบื้องต้น 5 วิธี ดังต่อไปนี้

1. ฝนตกให้หยุดใช้สักพัก

เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง หากเป็นไปได้ไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและตัวท่านเอง

2. ห้ามสัมผัสไฟเมื่อตัวเปียก

อุบัติเหตุที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าที่พบบ่อยในช่วงหน้าฝน มักเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไฟรั่ว ซึ่งอาจทำให้ถูกไฟดูดได้ วิธีป้องกันทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเปิดสวิตช์ไฟหรือเสียบปลั๊กไฟในขณะที่ร่างกายเปียกชื้นหรือยืนบนที่ชื้นแฉะ

3. หมั่นสำรวจไฟ ห้ามชำรุดให้ซ่อมแซม

ควรตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ และสายไฟต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และสังเกตความผิดปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งเสียง สี และกลิ่น บริเวณจุดต่อของเต้าเสียบ หากพบการชำรุดให้รีบซ่อมแซมโดยทันที โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ภายนอกอาคาร

4. ใช้สายดินเพื่อความปลอดภัย

ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าดูด เช่น สายดิน เครื่องตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ เบรกเกอร์ควบคุมไฟ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงหรือวัสดุหุ้มเป็นโลหะ เช่น ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ไมโครเวฟ ตู้น้ำดื่ม เป็นต้น ควรติดตั้งสายดิน หากกระแสไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าจะไหลลงสู่พื้นดิน ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด

5. ควรถอดปลั๊กไฟ หลังใช้ทุกครั้ง

หลังการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด อย่าลืมปิดสวิตช์และถอดปลั๊กไฟออกทุกครั้ง