เนื่องในวันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปี เป็น วันแห่งความหลากหลายทางชีวภาพสากล ชวนรู้จัก ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ ที่จะปกป้องไทยจากวิกฤตการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของโลก
สัตว์หายไปตลอดกาลจากโลกใบนี้ เป็นความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ แล้วไทยจะหยุดยั้งวิกฤตนี้ได้อย่างไร?
ชวนดูความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ เนื่องในวันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแห่งความหลากหลายทางชีวภาพสากล (International Day of Biological Diversity)
ประชากรสัตว์ลดลงอย่างต่อเนื่องทั่วโลกทุกปี แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักกันดี เช่น ช้าง เสือ นก หรือควายไทย สัตว์เหล่านี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ไทยได้เปิดตัว ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (National Biobank of Thailand) หรือ NBT ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
โดยทีมวิจัยจากธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา ผู้อำนวยการธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สวทช. ได้เปิดบ้านให้สื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมโครงการพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ เพื่อโชว์ศักยภาพให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และเนื่องในวันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแห่งความหลากหลายทางชีวภาพสากล ที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันที่อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2535 เพื่อรณรงค์ให้ประชาคมโลกเกิดการตระหนักและส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์
Springnews ในคอลัมน์ Keep The World จึงอยากชวนไปดูบทบาทของของธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติว่ามีส่วนสำคัญในการปกป้องวิกฤตสัตว์สูญพันธุ์ในประเทศได้อย่างไร?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การศึกษาใหม่ชี้ ที่อยู่อาศัยของช้าง 2 ใน 3 ทั่วเอเชียหายไปแล้ว เพราะมนุษย์
สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ทำหน้าที่อะไร? 23 สถานีเร่งขยายพันธุ์คืนธรรมชาติ
แก้ไขทันไหม การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 เริ่มแล้ว สัตว์กำลังล้มตายเป็นเบือ
ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติคืออะไร?
ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (National Biobank of Thailand: NBT) ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพแบบระยะยาว ภายใต้การบริหารจัดการของ สวทช. เพื่อเป็นคลังสำรองให้แก่ประเทศ อาทิ ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิต และข้อมูลทางชีวภาพที่ร่วมมือกับเครือข่ายวิจัยทั่วโลก
ผ่านการดำเนินงานร่วมกันของนักวิจัยจาก 3 ธนาคาร คือ ธนาคารพืช (Plant bank) ธนาคารจุลินทรีย์ (Microbe bank) และธนาคารข้อมูลชีวภาพ (Data bank) โดยมีเป้าหมายหลักคือการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในไทย
บทบาทสำคัญของ NBT
พืช จุลินทรีย์ และสัตว์ที่นักวิจัยวิเคราะห์ว่ามีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ จะถูกจัดเก็บตัวอย่างในตู้จัดเก็บเฉพาะ ซึ่งเป็นตู้จัดเก็บตัวอย่างขนาดใหญ่ตู้แรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้คงสภาพหรือคงความมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิเยือกแข็ง 3 ระดับ คือ
รวมข่าวสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกประจำปี 2022 ตัวไหนรอด ตัวไหนเสี่ยง ไปดู!
งานวิจัยใหม่เผย ประชากรผึ้งกำลังล้มตาย ภาคเกษตรเตรียมรับผลกระทบ
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เรียกง่าย ๆ ว่า แช่แข็งตัวอย่างสิ่งมีชีวิต เพื่อวันหนึ่งประชากรลดลง เราสามารถนำตัวอย่างเหล่านี้มีวิจัยเพื่อฟื้นฟูประชากรที่เริ่มลดน้อยลงไปได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญตัวอย่างที่เก็บมาจะสามารถมีชีวิตรอดได้หลังจัดเก็บในธนาคารแห่งนี้
มีโครงการฟื้นฟูประชากร “ละมั่งไทย” ด้วยโปรแกรมการเลือกคู่
“ละมั่งไทย” คนไทยรู้จักกันดีว่ามันถูกจัดอยู่ในสัตว์คุ้มครอง ที่ครั้งหนึ่งเคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติประเทศไทย แต่เพราะการเพาะเลี้ยงและนำกลับคืนสู่ธรรมชาติสำเร็จ ภายใต้หน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรมอุทยาน องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงทำให้ไทยยังมีละมั่งสายพันธุ์ไทยหลงเหลืออยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ละมั่งพันธุ์ไทยก็ยังเหลือน้อยอยู่ในระดับวิกฤต การผสมพันธุ์จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
เราจึงต้องระมัดระวังไม่ให้สัตว์เกิดการผสมพันธุ์กันในเครือญาติใกล้ชิด หรือ เลือดชิด (Inbreeding) เพราะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการจับคู่ของยีนด้อย ซึ่งจะทำให้ละมั่งอ่อนแอลงและมีแนวโน้มสูญพันธุ์มากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ ร่วมกับ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ (National Omics Center: NOC) จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับนำข้อมูลรหัสพันธุกรรมที่ถอดรหัสได้ของละมั่งมาวิเคราะห์เลือกคู่ผสมพันธุ์ที่เหมาะสมให้
การทำแบบนี้จะช่วยให้เกิดการคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่แข็งแรงและจะทำให้ประชากรละมั่งมีความอุดมสมบูรณ์และแข็งแรงตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดการเพิ่มจำนวนประชากรในอนาคตอย่างยั่งยืน ผ่านโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมานี้
นอกจากนี้โปรแกรมที่ทีมวิจัยได้พัฒนาขึ้นนี้ยังได้ตอบโจทย์การดำเนินงานด้านการอนุรักษ์อีก 2 ด้าน คือ “การวิเคราะห์สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตว่าเป็นพันธุ์แท้หรือลูกผสม” และ “การสืบย้อนหาเครือญาติของสิ่งมีชีวิต” ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงได้ถึง 3 รุ่นเพื่อให้การวิเคราะห์และวางแผนการอนุรักษ์เป็นไปอย่างยั่งยืน
หลังจากนี้ NBT มีแผนที่จะดำเนินงานร่วมกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำโปรมแกรมเข้าสู่ระบบขององค์การสวนสัตว์ เพื่อเปิดให้ผู้ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และผสมพันธุ์สัตว์ในประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์ และอนาคตอาจเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพได้ด้วย
หากใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NBT ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือสอบถามได้ที่ www.nationalbiobank.in.th หรือติดต่อสอบถามความร่วมมือด้านงานวิจัยได้ที่อีเมล [email protected]