นิวซีแลนด์ ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศ เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ หลังพายุไซโคลนแกเบรียลซัดกระหน่ำแบบไม่ยั้ง จนเกิดฝนตกหนักน้ำท่วม ดินถล่มทั่วเกาะเหนือ อพยพประชาชนจำนวนมาก ผู้ประสบภัยพายุ ต้องติดอยู่บนหลังคาบ้าน
สภาพอากาศกำลังทั่วโลกกำลังแปรปรวนอย่างหนัก โดย นิวซีแลนด์ ถึงขั้นต้อง ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศแล้วในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์) หลัง พายุไซโคลนแกเบรียล พัดถล่มนิวซีแลนด์ จนส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างทั่วเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ เกิดดินถล่มหลายแห่ง คลื่นสูงมาก ทางการสั่งอพยพประชาชน ผู้ประสบภัยจำนวนมากติดอยู่บนหลังคาบ้าน
วิกฤตครั้งนี้ นับเป็นการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศเป็นครั้งที่ 3 เท่านั้นในประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ โดยนิวซีแลนด์เคยประกาศภาวะฉุกเฉินในระดับชาติครั้งแรก หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ที่เมืองไครสท์เชิร์ชในปี 2011 และครั้งที่ 2 คือในช่วงแรก ๆ ของการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับ พายุไซโคลนแกเบรียล นำฝนมาตกกระหน่ำซ้ำเติมเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ หลังเพิ่งเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมใหญ่ในเมืองนี้เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งถือว่า เป็นการซ้ำเติมฝันร้ายของชาวเมืองโอ๊คแลนด์
โดย ทางภาครัฐนิวซีแลนด์ ได้แจ้งเตือนระดับสีแดง ซึ่งเป็นการเตือนภัยระดับสูงสุด ขณะเดียวกัน นักอุตุนิยมวิทยาของซีเอ็นเอ็นคาดการณ์ว่าอีก 24-36 ชั่วโมงลมพายุจะกระทบชายฝั่งตะวันออกและบริเวณด้านในที่อยู่ติดกันของเกาะ ก่อนจะค่อยๆ ลดลงในบ่ายวันพุธที่ 15 ก.พ. 2566 โดยมีประชาชนราวๆ 225,000 ที่ต้องไร้ไฟฟ้าใช้
เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันประเทศนิวซีแลนด์ 150 นายได้ร่วมกันแจกจ่ายเสบียงและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เจ้าของบ้านต้องอยู่บนหลังคาบ้าน และไม่มีไฟฟ้าใช้หลายหมื่นหลัง
สายการบินนิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกสายการบินภายในประเทศทั้งหมด ขณะที่ คีแรน แม็คนัลตี้ Kieran McAnulty รัฐมนตรีกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินกล่าวถึงพายุลูกนี้ว่า “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” โดยรัฐบาลระบุว่าขนาดของภัยพิบัติมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ