svasdssvasds

รู้หรือไม่? ปะการังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามทำลาย ข้อควรทราบก่อนดำน้ำ

รู้หรือไม่? ปะการังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามทำลาย ข้อควรทราบก่อนดำน้ำ

อีกกรณีตัวอย่างที่ต้องมาให้ความรู้เกี่ยวกับปะการังอีกครั้ง หลังเพจ ขยะมรสุมออกมาร้องเรียนกรมอุทยานฯ ว่ามีเรือนำเที่ยวพาลูกทัวร์ไปดำน้ำ จนปะการังเสียหาย วอนตรวจสอบ

เป็นอีกกรณีที่ควรได้รับการประชาสัมพันธ์อีกครั้งเกี่ยวกับความสำคัญของปะการัง โดนเฉพาะในประเทศไทย เพราะเมื่อไม่นานมานี้ เพจ ขยะมรสุม ᴍᴏɴsᴏᴏɴɢᴀʀʙᴀɢᴇ ᴛʜᴀɪʟᴀɴᴅ ได้โพสต์ร้องเรียนกลุ่มอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ว่ามีกรุ๊ปทัวร์ของบริษัทแห่งหนึ่งนำกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาดำน้ำชมปะการังและทำปะการังเสียหายในเขตอุทยาน รวมถึงมีเรือใบส่วนตัวที่สามารถระบุเลขเรือได้เข้าไปจอดในพื้นที่อุทยานและชนปะการังจนเสียหายเช่นเดียวกัน

ดังนั้น เรามาลองดูทั้ง 2 กรณีนี้กันหน่อยดีกว่า ว่าผิดกฎหมายอย่างไรบ้าง สปริงนิวส์ได้โทรไปสัมภาษณ์ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกี่ยวกับข้อกฎหมายลงโทษกรณีคุกคามปะการังในเขตอุทยาน ประกอบข้อมูลจากกรมอุทยานทางทะเลและชายฝั่ง ได้ข้อมูลดังนี้

รู้หรือไม่ ปะการังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามทำลาย ข้อควรทราบก่อนดำน้ำ

ปะการัง เป็นสัตว์คุ้มครองของไทย

สำหรับปะการังในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง กล่าวคือ ปะการังมีกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครอง ซึ่งมีหลายฉบับ ครอบคลุมการคุ้มครองตั้งแต่ตัวปะการังไปจนถึงซากปะการัง ดังนั้น เราต้องปฏิบัติต่อปะการังให้เหมือนกับสัตว์ตัวหนึ่ง โดยกฎหมายคุ้มครองปะการังที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

  • พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558
  • พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2496 และ 2528)
  • พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
  • พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

- พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง พ.ศ.2482

  • พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535
  • ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบางจังหวัด
  • พระราชบัญญัติให้อำนาจทหารเรือปราบปรามการกระทำผิดบางอย่างทางทะเล พ.ศ.2490
  • พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2535 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2545
  • มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอีก 3 ฉบับ ซึ่งกฎหมายบางฉบับเกี่ยวข้องโดยตรงและบางฉบับเกี่ยวข้องในทางอ้อม

ดังนั้น กรณีของการท่องเที่ยวและคุกคามปะการังข้างต้น จึงผิดกฎหมายบางประการที่กล่าวไป โดยข้อห้ามเกี่ยวกับปะการังคือ

  • ห้ามล่า
  • ห้ามทำอันตราย
  • ห้ามครอบครอง
  • ห้ามค้า
  • ห้ามเพาะพันธุ์โดยมิได้รับอนุญาต

รู้หรือไม่ ปะการังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามทำลาย ข้อควรทราบก่อนดำน้ำ  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บทลงโทษของผู้ที่ฝ่าฝืน

กรณีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวดำน้ำพร้อมกับเรือของบริษัทนำเที่ยว ไกด์ไม่ชี้แจงหรือแจ้งข้อห้ามให้แก่นักท่องเที่ยวก่อนลงดำน้ำและนักท่องเที่ยวที่ลงไปดำน้ำชมปะการังแล้วทำปะการังแตกหักเสียหายหรือหยิบกลับไป ล้วนมีโทษทางกฎหมายทั้งสิ้น

*หากผู้แจ้งสามารถระบุตัวนักท่องเที่ยวได้และระบุบริษัทนำทัวร์ได้

หากเป็นกรณีของเรือส่วนบุคคลที่ออกเรือเองและลงสมอจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อปะการัง ไม่ว่าจะในเขตอุทยานหรือนอกอุทยาน ก็มีความผิดทั้งสิ้น กรมอุทยานสามารถส่งต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาต่อไปเช่นเดียวกับบริษัทนำเที่ยวเหมือนกัน

ดังนั้น ไม่ว่าความผิดจะเกิดนอกเขตอุทยานหรือในเขตอุทยานล้วนมีความผิดทั้งสิ้น และประชาชนคนไทยสามารถร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ได้ผ่านสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362

รู้หรือไม่ ปะการังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามทำลาย ข้อควรทราบก่อนดำน้ำ

ความสำคัญของปะการังต่อระบบนิเวศ

ปะการัง เปรียบเสมือนสัตว์ชนิดหนึ่งของท้องทะเล โดยเฉพาะในเขตน้ำตื้นที่แสงส่องถึง ปะการัง คือ แนวหินปูนใต้ทะเล เป็นผลมาจากการเจริญเติบโตของปะการังหลายชนิด อีกทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ช่วยนำหินปูนมาพอกพุนสะสมจนทำให้เกิดแนวปะการังขนาดใหญ่ เช่น สาหร่ายหินปูน หอยที่มีเปลือกแข็ง ฯลฯ ด้วยโครงสร้างของมันทำให้มันอยู่ทนในคลื่นใต้น้ำได้ แต่ไม่ทนต่อน้ำหนักของมนุษย์ได้

แนวปะการัง แม้จะมีความซับซ้อนแต่ก็เป็นเสมือนเมืองใต้น้ำและบ้านสำหรับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลนานาชนิด เช่น ปลาชนิดต่าง ๆ กุ้ง หอย ดาวทะเล ปลิงทะเล ฟองน้ำ ปะการังอ่อน กัลปังหา หนอนทะเล สาหร่ายทะเล เป็นต้น และเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดในโลกใต้ทะเล

ความสำคัญของปะการังไม่เพียงแค่เป็นล้านให้กับสัตว์น้ำได้อาศัยเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ เป็นแนวปกป้องชายฝั่งจากการกัดเซาะของคลื่นและกระแสน้ำ และเป็นแหล่งกำเนิดเม็ดทรายที่เรา ๆ ใช้เดินใช้วิ่งกันอยู่ทุกวันนี้ รวมไปถึงช่วยสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

ประเทศไทยมีพื้นที่แนวปะการังทั้งสิ้น 149,182 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ชายฝั่ง 17 จังหวัด จากการสำรวจแนวปะการังในประเทศไทยของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบปะการัง 273 ชนิด จาก 18 วงศ์ 71 สกุล ส่วนใหญ่เป็นแนวปะการังที่ก่อตัวริมชายฝั่งของเกาะหรือตามชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ (fringing reef) นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังชายฝั่งบางส่วน และแนวปะการังบริเวณกองหินใต้น้ำโดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ห่างไกลจากฝั่งและน้ำลึก ๆ ที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ

แต่ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาว และเกิดการเสื่อมโทรมจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ทำให้เกิดปรากฎการปะการังฟอกขาวที่กระจายตัวเป็นวงกว้าง ส่งผลโดยตรงกับสัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำทั้งหมด ดังนั้น ท่องเที่ยวกันด้วยความเคารพธรรมชาติ อย่าหยิบ จับ ล่า หรือขาย สัตว์น้ำและปะการัง เพื่อคงระบบนิเวศให้สมบูรณ์ต่อไป

ที่มาข้อมูล

tis-museum

คลังความรู้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

related