‘สวยได้ไม่ทำร้ายโลก’ เป็นเทรนด์ความงามที่กำลังถูกพูดอยู่ในตอนนี้ เนื่องมาจากปัญหาโลกร้อน มลภาวะต่างๆ ทำให้ปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ไม่ว่าจะรีไซเคิล เลือกใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ รวมถึงหันมาเลือกใช้ Eco-Friendly Beauty Products หรือผลิตภัณฑ์ความงามที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
หลายคนอาจจะงงว่าเครื่องสำอางเกี่ยวอะไรกับสิ่งแวดล้อม เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กัน รู้ไหมว่า สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่เราใช้แล้วทิ้งนั้นมากกว่า 70% กลายเป็นขยะพลาสติกที่ต้องฝังกลบเพราะไม่สามารถรีไซเคิลได้ ในแต่ละวันเราสร้างขยะให้โลกประมาณ 1.14 กิโลกรัมต่อวันและต่อคน ขยะส่วนใหญ่ก็เป็นขยะพลาสติก ซึ่งในปัจจุบันองค์กรหรืออุตสาหกรรมแขนงต่างๆ รวมถึงวงการความงามได้หันมาสนใจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
หลายคนยังไม่รู้ใช่ไหมว่าในแต่ละปีอุตสาหกรรมความงามสร้างขยะจาก packaging ต่างๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งองค์กร Zero Waste รายงานว่า ปีๆ นึงมีขยะจากอุตสาหกรรมความงามมากกว่า 1.2 ล้านชิ้น แล้วก็เป็นขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ซะส่วนใหญ่ จึงเกิดเทรนด์ Sustainability หรือเทรนด์ความงามอย่างยั่งยืน ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญทั้งบรรจุภัณฑ์ที่ Recycle ได้ นวัตกรรมการผลิตลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสูตรผสมที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีหรือใช้น้อยที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อผิว และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
หลายๆ แบรนด์จึงหันมาใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมไปถึงการปลูกต้นไม้ทดแทน มีงานวิจัยพบว่า หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ Refill รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 70% เลยทีเดียว เรามาดูกันดีกว่าว่าแบรนด์ความงามแบบไหนจะเป็น Eco-Friendly Beauty Brands แบรนด์บิวตี้สายรักษ์โลก เรารวมมาให้แล้ว
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
Dior พัฒนาแพ็กเกจเพื่อโลก ใช้วัสดุรีไซเคิล ลดผลกระทบต่อจากกระบวนการพิมพ์
Caudallie คิดเพื่อโลก กันแดดไม่กระทบระบบนิเวศน์ทางน้ำ แพ็กแกจย่อยสลายได้
Caudalie
Caudalie แบรนด์ความงามยุคใหม่หัวใจสีเขียวจากฝรั่งเศส ที่ใช้หลัก Clean &Sustainability ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างแบรนด์อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ก่อตั้งโดย Bertrand และ Mathilde Thomas สองสามีภรรยาที่ได้ก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นปี 1995 โดยได้ใช้ส่วนผสมจากส่วนต่างๆ ขององุ่น ตั้งแต่รากไปจนถึงเมล็ด มาใช้ในการบำรุงผิว และได้งดใช้สารเคมี เช่น Parabens, Phenoxyethanol รวมถึงน้ำแร่และสารสังเคราะห์ในการสกินแคร์
และด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ 1% for the Planet โดยตั้งแต่ปี 2012 ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 6 ล้านต้นในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปลูกต้นไม้มากที่สุด และภายในปีนี้มีแพลนปลูกให้ได้ถึง 8 ล้านต้น ซึ่งจะชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4 เท่า เมื่อปี 2019 แค่ปีเดียว สามารถลดการใช้พลาสติกไปแล้ว 13 ตัน ปกป้องต้นไม้ได้ถึง 33 ตัน ในส่วนของการผลิตเครื่องสำอางและบรรจุภัณฑ์ ไม่มีการทดลองกับสัตว์หรือทรมานสัตว์
ในปี 2021 Caudalie ได้มีโครงการ 100% Plastic Collect ที่เริ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเก็บขยะพลาสติกในท้องทะเลให้ได้ 646 ตัน โดยพลาสติกที่ถูกเก็บมาและรีไซเคิลในปี 2020 จะเท่ากับ 100% ของพลาสติกของแบรนด์ที่ใช้ในปี 2019 ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มต้นในชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะหลายพื้นที่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณชาดหาดของหมู่เกาะสุรินทร์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวมอแกน ได้รับฟื้นฟูจากขยะพลาสติกเป็นที่แรก
ฺBiotherm
Biotherm แบรนด์ที่มีความผูกพันกับท้องทะเลมาอย่างยาวนาน มีโครงการ Water Lovers ปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์มหาสมุทร ซึ่งเป็นพันธสัญญาด้านความยั่งยืนของท้องทะเล ที่ Biotherm เริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 ที่มุ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์และปรับสูตรของผลิตภัณฑ์ บุกเบิกเทคโนโลยีการรีไซเคิลใหม่ๆ และลด Environmental footprint ที่ส่งผลกระทบต่อน้ำและสิ่งมีชีวิตในน้ำ ผ่านเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ชีวภาพโดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกและองค์กรเอกชน อย่าง Mission Blue, Tara Ocean Foundation และ Surfrider Foundation Europe
นอกจากนี้แคมเปญ Water Lovers ยังได้สนับสนุนการทำงานเพื่อปกป้องรักษาพื้นที่ทางน้ำซึ่งอยู่ในภาวะเสี่ยง รวมถึงการตีพิมพ์งานวิจัยที่มีหัวข้อการวิจัยเกี่ยวกับมหาสมุทร และให้ความรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับการปกป้องรักษาท้องทะเล และยังมีการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืน โดยการช่วยลดการใช้พลาสติกที่ทำมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil plastic) ผ่านโครงการ Water Lovers เพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเล
นอกจากนี้ Biotherm ยังได้ปรับโฉมของยูนิฟอร์มของ Biotherm Skin Experts หรือผู้เชี่ยวชาญผิวพรรณแห่งท้องทะเลไบโอเธิร์ม ที่ถูกผลิตจาก Seaqual Filaments เส้นใยแปรรูปจากทะเล, Recycled Polyester เส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์จากการรีไซเคิล และ Organic Cotton ผ้าคัตตอนออร์แกนิก รวมไปถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่าง กระดุม ซิป และป้ายด้านในของเสื้อ ก็ยังเป็นวัสดุจากการรีไซเคิลเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย
Jurlique
Jurlique แบรนด์สกินแคร์ที่มีความเป็นมากกว่า 30 ปี เพาะปลูกและเก็บเกี่ยวพืชสมุนไพร:ซึ่งเป็นส่วนผสมในสกินแคร์จากฟาร์ม Biodynamic บนเทือกเขาในเมืองแอดิเลด ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผ่านการทดสอบว่าเป็นสถานที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ดูแลโดยใช้กระบวนการไบโอไดนามิคที่ล้ำสมัยเพื่อพืชพรรณสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้แน่ใจว่าปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อผิวและสภาพแวดล้อมภายในฟาร์ม และใช้กระบวนการ Bio-intrinsic ซึ่งเป็นกระบวนการพิเศษ เพื่อสร้างสรรค์สูตรการดูแลผิวตามธรรมชาติ
Biossance
แบรนด์ Eco-Friendly Beauty ที่เป็นมิตรกับโลกด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ 100% และและแบรนด์นี้เค้าตั้งใจที่จะลดขยะบรรจุภัณฑ์ให้เป็น 0 ภายในปี 2025 และแน่นอนว่า ส่วนผสมหลัก อย่าง ‘สควาเลน’ ซึ่งโดยปกติจะสกัดจากปลาฉลาม แต่แบรนด์ Biosance สกัดจากอ้อย เป็นส่วนผสมวีแกนที่และกลายเป็น ‘สควเลนวีแกน’ ซึ่งจะช่วยลดการฆ่าฉลามได้เป็นจำนวนมาก
Sunday Riley
Sunday Riley แบรนด์เครื่องสำอางรักษ์โลกที่มีสโลแกนว่า “Powered by Science, Backed by Botanicals” ซึ่งแบรนด์ได้ประกาศว่าจะทำให้การผลิตภัณฑ์ขยะจากน้ำมันเป็นศูนย์ (Zero Waste Oil Process) ซึ่งโดยปกติแล้วการทำน้ำมันบำรุงผิวจะสกัดน้ำมันจากเมล็ดได้เพียง 10% เท่านั้น ส่วนเมล็ด 90% นั้นจะถูกทิ้งไปเป็นขยะ ซึ่งแบรนด์นี้ได้นำเมล็ดส่วนเกินมาสร้าง Seed powder และ Supplements ต่างๆ เพื่อลดขยะ ถือเป็นแบรนด์ที่ใช้วัตถุดิบทุกส่วนอย่างคุ้มค่า
The Body Shop
The Body Shop แบรนด์เครื่องสำอางรักษ์โลกที่เรารู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1976 ที่ประเทศอังกฤษ มีผลิตภัณฑ์มากมายตั้งแต่สกินแคร์ ดูแลผิวหน้า ผิวกาย เส้นผม รวมถึงน้ำหอม และเมกอัพต่างๆ โดยแบรนด์นี้มีหลักการยึดมั่นในการคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติและเน้นผลผลิตจากโครงการค้าชุมชน และความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที ทรี หรือ ดร็อปส ออฟ ยูธ ก็มีส่วนผสมที่มาจากชุมชน และได้ให้ความสำคัญกับแพ็กเกจที่มาจากวัสดุรีไซเคิล
Drunk Elephant
แบรนด์สกินแคร์ที่ใช้ส่วนธรรมชาติ ปราศจาก 6 สารก่อการระคายเคือง อย่างน้ำมันหอมระเหย, แอลกอฮอล์, ซิลิโคน, สารกันแดดแบบเคมี, น้ำหอม, สีย้อม และ SLS อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ 100% Cruelty-Free ไม่มีการทดสอบผลิตภัณฑ์กับสัตว์
Three Cosmetics
Three Cosmetics แบรนด์เครื่องสำอางจากญี่ปุ่นที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% พร้อมได้รับรองจากสถาบันออแกนิกระดับโลก ECOCERT COSMOS ว่าเป็นส่วนผสมที่ปลอดภัยและบริสุทธิ์ อย่าง ส่วนผสมของกุหลาบดามัสก์ที่ปลูกจังหวัดวากายะมะของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการปลูกอย่างพิถีพิถันแบบออร์แกนิก มีประสิทธิภาพสูงด้วยและมีสารแอนตี้อ็อกซิแดนซ์สูงกว่ากุหลาบดามัสก์ทั่วไปหลายเท่า เรียกได้ว่าแบรนด์นี้เค้าใช้ธรรมชาติมอบการบำรุงทั้งผิวและการผ่อนคลาย
Burt’s Bees
เบิร์ตส์ บีส์ แบรนด์เครื่องสำอางรักษ์โลก มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1984 เบิร์ตส์ บีส์เริ่มต้นธุรกิจจากฟาร์มผึ้งเล็กๆ ในสวนหลังบ้าน ที่รัฐเมน มีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แบรนด์นี้ยังได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นในความมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมและธรรมชาติ The Greater Good™ เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นพันธสัญญาต่อผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
ดังนั้นสกินแคร์และเครื่องสำอางทั้งหลายของแบรนด์นี้จึงปราศจากสารปิโตรเคมีและสารสังเคราะห์ต่างๆ เช่น ธาเลตส์ (Phthalates) สารทำละลายที่ช่วยให้ผสมละลายกับน้ำได้ดีซึ่งผสมในยาดับกลิ่นกาย ผลิตภัณฑ์แต่งผม และยังไม่มี พาราเบนส์ (Parabens) สารกันเสียที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเวชสำอาง สารชนิดนี้ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนลดลง ผลิตภัณฑ์ของ เบิร์ตส์ บีส์ ทั้งหมดจึงรับประกันถึงความเป็นธรรมชาติ โดยผ่านการรับรองจากองค์กรในระดับนานาชาติ (Natural Products Association - สังเกตได้จากสัญลักษณ์ใบไม้สีเขียว) ซึ่งหมายความว่าอ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวอย่างแท้จริง รวมทั้งไม่มีการทดลองในสัตว์อีกด้วย
Alteya Organics
Alteya Organics แบรนด์สกินแคร์ Eco-Friendly จากประเทศบัลแกเรียซึ่งเป็นแหล่งผลิต Rose Oil และ Rose Water ที่มีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากปลูกในที่ราบเชิงเขาที่มีดินอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ แหล่งน้ำสะอาด โดยไม่ใช้สารเคมีหรือถูกกระทบโดยมลภาวะที่เป็นพิษ สกินแคร์ของแบรนด์นี้จึงเป็นการบำรุงผิวด้วยพลังกุหลาบจากธรรมชาติล้วนๆ โดยไม่มีสารเคมีอันตราย