แม้ อีลอน มัสก์ จะยอมรับแล้วว่า การจะซื้อสโมสรแมนฯยูไนเต็ด เป็นเรื่องที่ อำเล่นกัน ขำๆ เพราะเขา ยังไม่มีแผนซื้อทีมกีฬา แต่ถ้าต้องซื้อก็อยากได้ แมนฯ ยูไนเต็ด นั่นแหละ แต่เรามาลองดูกันว่า หุ้นสโมสรแมนฯยูไนเต็ด ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ณ เวลานี้ มีใครถือครองกันบ้าง
สโมสรแมนฯยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง ในวันนี้ (17 ส.ค. 2022) หลังจากที่ อีลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีของโลก ซีอีโอของ Tesla รวมถึงบริษัทยานอวกาศSpaceX เพิ่งประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยบอกว่า เขากำลังจะซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ เป็นไวรัลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้ อีลอน มัสก์ จะยอมรับแล้วว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ อำเล่นกัน ขำๆ เพราะเขา ยังไม่มีแผนซื้อทีมกีฬา แต่ถ้าต้องซื้อก็อยากได้ แมนฯ ยูไนเต็ด นั่นแหละ แต่เรามาลองดูกันว่า หุ้นสโมสรแมนฯยูไนเต็ด ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ณ เวลานี้ มีใครถือครองกันบ้าง...
สำหรับ สโมสรแมนฯยูไนเต็ด ปัจจุบันยังมี ตระกูลเกลเซอร์ ที่มีสิทธิ์ในการควบคุมสโมสรมากที่สุดจากการถือหุ้นราว 70 % แม้จะมีหนี้สินอยู่มาก แต่ทางสโมสรแมนฯยูไนเต็ด ก็มีรายได้มหาศาลจากการเซ็นสัญญาในเชิงพาณิชย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อีลอน มัสก์ ทวีตข้อความ กำลังจะซื้อแมนฯยูไนเต็ด แฟนผีลุ้นดีลจริงหรืออำ
โดยนับจากที่ตระกูลเกลเซอร์เข้าซื้อกิจการในปี 2005 จนถึงกลางปี 2021 พบว่า รายได้ "ผีแดง" ในยุคตระกูลเกลเซอร์นั้น เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า และ แมนฯยูไนเต็ด ก็ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ3 ของโลกในปี 2020 จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
หากมองให้ลึกในรายละเอียด นอกเหนือจากสมาชิกตระกูลเกลเซอร์แล้ว หุ้นของ Manchester United PLC ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ถือครองโดยผู้ลงทุนสถาบัน 10 รายใหญ่ มีรายได้รวม (6 มิ.ย. 2022) 152.85 ล้านปอนด์.
โดย 10 อันดับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก มีดังนี้
อันดับ 1 Ariel Investments LLC 21.98% จำนวนหุ้น 11,604,535 มูลค่า 129,274,520 ล้านดอลลาร์
อันดับ 2 Lindsell Train Ltd. 20.44% จำนวนหุ้น 10,792,676 มูลค่า 120,230,411 ล้านดอลลาร์
อันดับ 3 Massachusetts Financial Services 7.07% จำนวนหุ้น 3,732,415 มูลค่า 41,579,103 ล้านดอลลาร์
อันดับ 4 Invesco Capital Management LLC 5.44% จำนวนหุ้น 2,869,363 มูลค่า 31,964,704 ล้านดอลลาร์
อันดับ 5 BAMCO, Inc. 2.94% จำนวนหุ้น 1,553,888 มูลค่า 17,310,312 ล้านดอลลาร์
อันดับ 6 Janus Henderson Investors US LLC 1.97% จำนวนหุ้น 1,040,520 มูลค่า 11,591,393 ล้านดอลลาร์
อันดับ 7 Antara Capital LP 1.94% จำนวนหุ้น 1,025,000 มูลค่า 11,418,500 ล้านดอลลาร์
อันดับ 8 Ceredex Value Advisors LLC 1.34% จำนวนหุ้น 704,777 มูลค่า 7,851,216 ล้านดอลลาร์
อันดับ 9 Group One Trading LP 1.33% จำนวนหุ้น 700,666 มูลค่า 7,805,419 ล้านดอลลาร์
อันดับ 10 Renaissance Technologies LLC 1.06% จำนวนหุ้น 559,500 มูลค่า 6,232,830 ล้านดอลลาร์
ในความเป็นจริงแล้ว พี่น้องตระกูลเกลเซอร์ ทยอยขายหุ้นที่พวกเขาถือครองออกมาเป็นระยะๆ ตัวเลขไม่ได้นิ่งตลอด อาทิ ในปี 2014 หลังมัลคอล์ม เกลเซอร์ ผู้พ่อเสียชีวิตในวัย 85 ปี ไปเพียง 6 เดือน เอ็ดเวิร์ด ก็เสนอขายหุ้นในส่วนของเขา 3 ล้านหุ้น และล่าสุด เดือนมี.ค. ปี 2021 อัฟรัม เกลเซอร์ เสนอขาย 5 ล้านหุ้นในส่วนของเขาคิดเป็นมูลค่าราว 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากย้อนไปในอดีต ตระกูลเกลเซอร์นำสโมสรเข้าจดทะเบียนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี 2012 หลังจากนั้น 2 ปี มัลคอล์ม เกลเซอร์ ก็เสียชีวิต
หุ้นของตระกูลเกลเซอร์ในกิจการสโมสรแมนฯยูไนเต็ด 90% ตกเป็นของลูกๆ 6 คนของเขาในสัดส่วนเท่า ๆกัน ได้แก่ อัฟรัม ,โจเอล , เควิน , ไบรอัน , ดาร์ซี และเอ็ดเวิร์ด เกลเซอร์ โดยโจเอลและอัฟรัมเป็นผู้บริหารสโมสรในตำแหน่งประธานร่วม (co-chairman)ในปัจจุบัน ส่วนคนอื่น ๆ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสโมสรแมนฯยูไนเต็ด
สำหรับ ตระกูลเกลเซอร์ เข้ามาครอบครอง "แมนฯ ยูไนเต็ด" ตั้งแต่ปี 2005 จนถึงตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 17 ปีเต็ม โดยมีความพยายามที่จะขายสโมสรมาแล้วเมื่อปลายปีก่อน ที่จำนวนเงินราว 4,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท แต่ยังไม่มีใครให้ความสนใจเพราะมองว่าราคานี้เป็นราคาที่สูงจนเกินไป