SHORT CUT
เปิดเหตุผลเพราะอะไร ทำไมการใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ในหนัง The Brutalist ตัวเต็งออสการ์ 2025 จึงเป็นที่ถกเถียง-ดราม่า! ทั้งที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็มีการใช้มานานแล้ว
รางวัล Academy Awards ครั้งที่ 97 หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม รางวัลออสการ์ กำลังจะมีการประกาศในเช้าวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย , เวลานี้หลายๆคนต่างคาดหมายกันไปว่าภาพยนตร์เรื่องใดจะเข้าป้ายเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในปี 2025
หนึ่งในตัวเต็งนั้นก็คือ The Brutalist หนังที่เข้าชิง 10 รางวัล และก่อนหน้านี้ก็เพิ่งคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขา Best Motion Picture – Drama ( ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขา ดราม่า) มาก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม The Brutalist มีประเด็นดราม่าในช่วงเวลาก่อนหน้านี้มาพอสมควร เพราะ มีกระแสวิจารณ์เชิงลบบนโซเชียลมีเดีย ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ Dávid Jancsó มือตัดต่อของหนังเรื่องนี้ ได้ยอมรับว่ามีการใช้ AI ในการทำงานให้ จบงานได้ไวขึ้น
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้ AI แก้ไขบทสนทนานของตัวละครที่ต้องพูดภาษา อังกาเรียน , ทั้งนี้ เอาจริงๆ แล้ว แก้ไขเสียงแบบดั้งเดิมด้วยโปรแกรมตัดต่ออย่าง ProTools ก็ทำได้ แต่เนื่องจากในหนังมีบทสนทนาที่ต้องเป็นภาษาฮังการีเยอะมาก ทางทีมงานจึงจำเป็นต้องเร่งกระบวนการด้วยการใช้ AI รวมถึงมีการใช้ AI ในการใช้สร้างภาพวาดของสถาปัตยกรรมต่างๆ (ไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้เจ้าของภาพ) ที่ใช้ในช่วงท้ายเรื่องด้วย เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณที่มีประมาณ 10 ล้านดอลลาร์
แน่นอนว่า ที่ผ่านมา ในโลกของภาพยนตร์ มีการใช้ AI ในการผลิตมานานแล้ว แต่ภาพยนตร์ 'The Brutalist' ต้องกลายมาเป็นประเด็นข้อถกเถียง เนื่องด้วยหลายเหตุปัจจัย
• ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อศิลปินและนักแสดง :
มีความเห็นว่าการใช้ AI ในการปรับสำเนียงของนักแสดงเป็นการลดทอนคุณค่าของการแสดง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของงานศิลปะ นอกจากนี้ บางคนมองว่าการใช้ AI เพื่อสร้างภาพสถาปัตยกรรมเป็นการหลีกเลี่ยงการจ้างศิลปินทัศนศิลป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพของพวกเขา
• ความไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของรางวัลออสการ์
มีการเปรียบเทียบกรณีของ 'The Brutalist' กับการตัดสิทธิ์เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง 'Dune: Part Two' จากรางวัลออสการ์เนื่องจากมีการใช้ดนตรีจากภาคแรก โดยชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องกันในการพิจารณาภาพยนตร์ที่ใช้ AI ในการผลิต
• ข้อถกเถียงเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์:
แม้ว่าผู้ตัดต่อภาพยนตร์จะอ้างว่าการใช้ AI เป็นเพียงการเพิ่มรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สามารถทำได้ด้วยงบประมาณและเวลาที่จำกัด แต่ก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับขอบเขตของการใช้ AI และผลกระทบต่อความคิดสร้างสรรค์โดยรวมของภาพยนตร์
ความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล:
แม้ว่า Dávid Jancsó คนตัดต่อจะออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการใช้ AI ในภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสในการใช้ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวม และความจำเป็นในการมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขอบเขตที่เหมาะสมของการใช้ AI
ความเร็วและต้นทุน:
การใช้ AI ช่วยให้กระบวนการผลิตเร็วขึ้นและประหยัดต้นทุน แต่บางคนกังวลว่าการเน้นที่ประสิทธิภาพอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์
ถึงแม้ว่า Dávid Jancsó จะกล่าวว่าไม่มีอะไรในการใช้ AI ในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่การเปิดเผยเกี่ยวกับการใช้ AI ใน 'The Brutalist' ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่อไป
ที่มา : variety a24films engadget
ข่าวที่เกี่ยวข้อง