xAI เปิดตัว "Grok 3" โมเดล AI เรือธงรุ่นใหม่ เก่ง-ฉลาดขึ้น ผ่านมาตรฐานสากล

Grok 3 ซึ่งเป็นโมเดล AI หลักของ xAI ที่ได้รับการพัฒนาให้เทียบเคียงกับโมเดลชั้นนำในตลาดอย่าง GPT-4o ของ OpenAI และ Gemini ของ Google

โดย Grok 3 มีความสามารถรอบด้าน ทั้งการวิเคราะห์ภาพ การตอบคำถามที่ซับซ้อน และยังเป็นกลไกขับเคลื่อนคุณสมบัติต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (เดิมคือ Twitter) ของ Elon Musk เอง

สำหรับ Grok 3 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดนี้ ได้ผ่านกระบวนการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเดิมทีมีกำหนดเปิดตัวตั้งแต่ปี 2024 แต่ได้เลื่อนมาเปิดตัวในช่วงต้นปี 2025 นี้

xAI ได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลอย่างมหาศาล โดยใช้ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเมืองเมมฟิส ซึ่งติดตั้งหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ประมาณ 200,000 ตัว เพื่อใช้ในการฝึกฝน Grok 3

Elon Musk ได้กล่าวถึงขุมพลังเบื้องหลัง Grok 3 ผ่านโพสต์บน X ว่า โมเดลรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนาโดยใช้กำลังประมวลผลที่ "มากกว่า" Grok 2 รุ่นก่อนหน้าถึง 10 เท่า พร้อมทั้งขยายขนาดชุดข้อมูลการฝึกอบรมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงข้อมูลจากเอกสารการดำเนินคดีในชั้นศาล

"Grok 3 เหนือกว่า Grok 2 อย่างก้าวกระโดด" Musk กล่าวในการนำเสนอสดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา "มันคือ AI ที่มุ่งแสวงหาความจริงอย่างถึงที่สุด แม้ว่าความจริงนั้นบางครั้งจะขัดแย้งกับสิ่งที่ถูกต้องทางการเมืองก็ตาม"

ถ้อยคำดังกล่าวสะท้อนถึงปรัชญาการพัฒนา AI ของ xAI ที่เน้นความเป็นอิสระทางความคิดและไม่ยึดติดกับกรอบจำกัดทางสังคมและการเมือง

Grok 3 ไม่ได้เป็นเพียงโมเดลเดียว แต่เป็นกลุ่มของโมเดล AI ที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น "Grok 3 mini" ซึ่งเป็นรุ่นย่อยที่มีขนาดเล็กกว่า จะเน้นการตอบคำถามที่รวดเร็ว

แต่ยังคงประสิทธิภาพในระดับที่น่าพอใจ ในขณะที่โมเดลและคุณสมบัติอื่น ๆ บางส่วนยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาหรืออยู่ในช่วงทดสอบเบต้า 

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Grok 3 ในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของ xAI ในการพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูง และพร้อมที่จะแข่งขันในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ Grok 3 เวอร์ชันแรกยังทำคะแนนได้ดีในการแข่งขัน Chatbot Arena ซึ่งเป็นการทดสอบแบบ crowdsourced ที่นำโมเดล AI ต่าง ๆ มาประชันกัน และให้ผู้ใช้งานทั่วไปเป็นผู้ตัดสินว่าโมเดลใดให้คำตอบที่น่าพึงพอใจมากที่สุด

Grok 3 ได้นำเสนอโมเดล "การให้เหตุผล" (Reasoning Model) สองรูปแบบ ได้แก่ "Grok 3 Reasoning" และ "Grok 3 mini Reasoning" ซึ่งมีความสามารถในการ "คิดอย่างรอบคอบ" เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ก่อนที่จะให้คำตอบ

โมเดลเหล่านี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงของตัวเองอย่างละเอียด เพื่อลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดที่มักพบในโมเดล AI ทั่วไป ซึ่งคล้ายคลึงกับโมเดล "การให้เหตุผล" อื่น ๆ เช่น o3-mini ของ OpenAI และ R1 ของ DeepSeek จากประเทศจีน

xAI อ้างว่า "Grok 3 Reasoning" มีประสิทธิภาพเหนือกว่า "o3-mini-high" ซึ่งเป็นรุ่นที่ดีที่สุดของ o3-mini ในเกณฑ์มาตรฐานยอดนิยมหลายประการ รวมถึงเกณฑ์มาตรฐานทางคณิตศาสตร์ใหม่ที่เรียกว่า AIME 2025

โมเดลการให้เหตุผลเหล่านี้ สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชัน Grok โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกให้ Grok 3 "คิด" หรือเลือกใช้โหมด "Big Brain" สำหรับคำถามที่ซับซ้อนและต้องการการประมวลผลที่มากขึ้น

xAI อธิบายว่าโมเดลการให้เหตุผล เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคำถามที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเขียนโปรแกรม

โมเดลการให้เหตุผลของ Grok ยังสนับสนุนคุณสมบัติใหม่ในแอป Grok ที่เรียกว่า "DeepSearch" ซึ่งเป็นเครื่องมือ "การวิจัยเชิงลึก" ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

โดย DeepSearch จะทำการสแกนข้อมูลจากทั่วอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์ม X เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลลัพธ์เพื่อตอบคำถามของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เทียบเคียงได้กับ "การวิจัยเชิงลึก" ของ OpenAI

สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัส Grok 3 ก่อนใคร สมาชิก X Premium+ (ค่าบริการ 22 ดอลลาร์ต่อเดือน) จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับสิทธิ์ในการใช้งาน นอกจากนี้ xAI ยังมีแผนการให้บริการใหม่ภายใต้ชื่อ "SuperGrok" ซึ่งมีราคา 30 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 300 ดอลลาร์ต่อปี (ตามข่าวลือ)

โดย SuperGrok จะปลดล็อกการเข้าถึงการสืบค้นด้วยโมเดลการให้เหตุผลและ DeepSearch ได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มขีดจำกัดในการสร้างภาพ

ในอนาคตอันใกล้นี้ แอป Grok จะได้รับการอัปเดต "โหมดเสียง" ภายในประมาณหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ Grok สามารถสื่อสารด้วยเสียงสังเคราะห์ได้ และในอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดไป โมเดล Grok 3 จะพร้อมใช้งานบน xAI enterprise API พร้อมกับคุณสมบัติ DeepSearch สำหรับภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ

Elon Musk ตั้งใจให้ Grok 3 เป็น "AI ที่ไม่เซ็นเซอร์ พร้อมตอบคำถามที่ AI อื่นหลีกเลี่ยง"

อย่างไรก็ตาม Grok รุ่นก่อนหน้ากลับมีแนวโน้มเอียงซ้ายทางการเมือง ซึ่ง Musk รับทราบและให้สัญญาจะปรับปรุง Grok 3 ให้เป็นกลางมากขึ้น จึงเป็นที่น่าติดตามว่า Grok 3 จะบรรลุเป้าหมายนี้ได้หรือไม่ และจะสร้างความแตกต่างในการแข่งขันในตลาด AI ที่รุนแรงได้อย่างไร

ที่มา : TechCrunch