svasdssvasds

รู้จัก “Ask Santa” AI ช่วยสานฝันเด็ก ๆ คุยกับซานตาคลอส ระดมทุนสู้โรคเบาหวาน

รู้จัก “Ask Santa” AI ช่วยสานฝันเด็ก ๆ คุยกับซานตาคลอส ระดมทุนสู้โรคเบาหวาน

บริษัท StoryFile ในสหรัฐฯ นำโปรแกรม Ask Santa โปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และผสานเข้ากับเทคโนโลยีวิดีโอเชิงสนทนา มาให้เด็ก ๆ ได้สนทนาแบบตัวต่อตัวกับซานตาคลอสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ไปพร้อมกับการระดมทุนสนับสนุนการวิจัยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1

SHORT CUT

  • Ask Santa คือโปรแกรม AI ที่ให้เด็กๆ คุยกับซานตาคลอสแบบสมจริง โดยใช้เทคโนโลยีวิดีโอเชิงสนทนาของ StoryFile ที่ผสาน AI เข้ากับวิดีโอซานตาคลอส
  • Ask Santa ระดมทุนช่วยวิจัยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 การบริจาค 5 ดอลลาร์เพื่อคุยกับซานต้า จะนำไปสนับสนุน Breakthrough T1D องค์กรที่วิจัยและพัฒนาวิธีรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัย เป็นโรคภูมิต้านทานทำลายตัวเอง ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด

บริษัท StoryFile ในสหรัฐฯ นำโปรแกรม Ask Santa โปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และผสานเข้ากับเทคโนโลยีวิดีโอเชิงสนทนา มาให้เด็ก ๆ ได้สนทนาแบบตัวต่อตัวกับซานตาคลอสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ไปพร้อมกับการระดมทุนสนับสนุนการวิจัยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1

โปรแกรม Ask Santa ของบริษัท StoryFile จากสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่เป็นกิมมิกของเทศกาลคริสต์มาสรูปแบบหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นโปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI แสนสนุกสนานและสามารถโต้ตอบมีปฏิสัมพันธ์ได้ ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ได้พูดคุยกับซานตาคลอส พร้อมระดมเงินสำหรับการวิจัยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1

โดยการบริจาคเงิน 5 ดอลลาร์หรือราว 172 บาท เพื่อเข้าถึงการสนทนาแบบตัวต่อตัวกับซานตาคลอสในโปรแกรมดังกล่าว เป็นการช่วยสนับสนุนการวิจัยของ Breakthrough T1D ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ศึกษาและสนับสนุนการรักษาโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1

“เอลีนอร์ ชาฟฟ์เนอร์-มอช” (Eleanor Schaffner-Mosh) จาก Breakthrough T1D เปิดเผยว่า วิธีที่ Ask Santa ปรากฎบนหน้าจอ ต่างจากโปรแกรมอื่นๆทั่วไป เนื่องจากเป็นคนที่มีตัวตนแต่งตัวเป็นซานตาคลอสตัวจริง

ซึ่งให้ความรู้สึกสบายใจและสมจริงมาก พร้อมเสริมว่า Breakthrough T1D กำลังเร่งความก้าวหน้าในการรักษาโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ในทุก ๆ วัน และเงินบริจาคทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนการวิจัยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ต่อไป

 

ความมหัศจรรย์เบื้องหลัง Ask Santa คือ เทคโนโลยีวิดีโอเชิงสนทนา (Conversational Video Technology ) ของ StoryFile ด้วยการใช้ AI ผสมผสานเข้ากับเนื้อหาของคลิปวิดีโอที่ถ่ายทำเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

จนเกิดเป็นปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ที่ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่ากำลังสนทนาอยู่กับซานตาคลอสจริง ๆ และทั้งหมดอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

“เอลีนอร์ ชาฟฟ์เนอร์-มอช” ระบุว่า โปรแกรมนี้มีความปลอดภัย เนื่องจากไม่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบ ChatGPT ของ OpenAI หรือแพลตฟอร์ม AI อื่น ๆ และคำถามทั้งหมดอยู่ในฐานข้อมูลของโปรแกรมแล้ว รวมถึง จะไม่มีการเกิดอาการหลอนของ AI หรือการที่ AI สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงขึ้น ซานต้าในโปรแกรมนี้ไม่สามารถตั้งคำถามประหลาด ๆ จาก ChatGPT ได้ พร้อมย้ำว่า Ask Santa เป็นโปรแกรมที่ปลอดภัยไร้อันตรายในการให้เด็ก ๆ ได้พูดคุยกับซานตาคลอส

อย่างไรก็ตาม หากเด็กชายหรือเด็กหญิงจอมซนพยายามใช้คำหยาบคาย ซานตาคลอสจะตอบกลับว่า ซานต้าไม่เข้าใจ..คำหยาบ หรือพูดว่า “ถามฉันอย่างอื่นสิเด็กน้อย” แทน

StoryFile พัฒนา Ask Santa ขึ้นครั้งแรกในช่วงการแพร่ะบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และในปีนี้ บริษัทนำโปรแกรมนี้มาให้กับองค์กร Breakthrough T1D ใช้ เพื่อช่วยเหลือในโครงการระดมทุนด้วยการบริจาคเงิน 5 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้หนึ่งราย เพื่อสนับสนุนการวิจัยของ Breakthrough T1D

ในบรรดาเด็ก ๆ ที่กำลังเพลิดเพลินกับ Ask Santa ก็มีเด็กชายจูด (Jude) วัย 10 ขวบ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 และได้รับผลประโยชน์จากองค์กร Breakthrough 1TD ซึ่งหนูน้อยรายนี้เปิดเผยว่า Breakthrough T1D ช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง และทำให้เด็ก ๆ รวมถึง ผู้ป่วยคนอื่น ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ในตอนกลางวันไม่ต่างจากคนทั่วไป

CREDIT : AFP

สำหรับโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 (T1D)  ส่งผลกระทบกับผู้คนนับล้านทั่วโลก เป็นโรคที่ทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายทำงานผิดปกติและสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยครึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยโรคใหม่เกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุ 18 ปีหรือต่ำกว่า และครึ่งหนึ่งในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ขณะเดียวกัน การที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเบตาเซลล์ที่ผลิตอินซูลินในตับอ่อน ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ และปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 โดยผู้ป่วยจะต้องฉีดอินซูลินเข้าไปในร่างกายเป็นประจำทุกวัน แต่อินซูลินคือการรักษาซึ่งไม่ช่วยให้หายขาด และหากไม่มีอินซูลิน น้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยอาจสูงแตะระดับที่เป็นอันตรายและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพหลายอย่างได้

ที่มา : REUTERSStoryFile

related