BOE โดนข้อหาละเมิดสิทธิบัตรหน้าจอ Samsung ในสหรัฐฯ อาจมีเจ้าดังโดนไปด้วย
คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐฯ ออกคำตัดสินเบื้องต้นว่า BOE มีความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับหน้าจอบางฉบับของ Samsung Display
SHORT CUT
- สำหรับใครที่ไม่ได้ตามเรื่องนี้ ต้องเล่าก่อนว่าเมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา Samsung ได้ยื่นฟ้องผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 17 รายในสหรัฐฯ
- ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรหน้าจอ OLED ของ Samsung Display ก่อนที่ BOE จะเป็นซัปพลายเออร์อีก 1 ราย ที่ถูกฟ้องร้องเพิ่มเติมในปี 2023
- ฐานละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับหน้าจอบางฉบับ ซึ่งถ้าหากโดนแบนในสหรัฐฯ Motorola และ OnePlus ก็สุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐฯ ออกคำตัดสินเบื้องต้นว่า BOE มีความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับหน้าจอบางฉบับของ Samsung Display
BOE โดนข้อหาละเมิดสิทธิบัตรหน้าจอ Samsung ในสหรัฐฯ
สำหรับใครที่ไม่ได้ตามเรื่องนี้ ต้องเล่าก่อนว่าเมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา Samsung ได้ยื่นฟ้องผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 17 รายในสหรัฐฯ ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรหน้าจอ OLED ของ Samsung Display ก่อนที่ BOE จะเป็นซัปพลายเออร์อีก 1 ราย ที่ถูกฟ้องร้องเพิ่มเติมในปี 2023
ล่าสุดคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐฯ ออกคำตัดสินเบื้องต้นว่า BOE มีความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับหน้าจอบางฉบับของ Samsung Display แต่มีคำร้องที่ Samsung ยื่นไปอีกอีกว่า “ห้ามการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าที่มีการละเมิด” ได้ถูกปัดตกไป โดย ITC ของสหรัฐฯ ชี้แจงว่า หลักฐานยังไม่เพียงพอว่าการละเมิดสิทธิบัตรของ BOE ส่งผลกระทบต่อบริษัทหรืออุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ยังไง
ผู้คนในวงการก็วิเคราะห์กันไปในทิศทางเดียวกันว่า Samsung กำลังถือไพ่เหนือกว่า หลังคณะกรรมาธิการฯ ประกาศคำตัดสินคร่าว ๆ ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (15 พ.ย.) ทำให้มีแนวโน้มสูงที่ Samsung จะยื่นคำคัดค้าน โดยร้องขอให้ ITC พิจารณาคำร้องเกี่ยวกับที่มีการปัดตกไปในตอนแรกอีกครั้ง
และสำหรับใครที่ไม่รู้จัก BOE ปัจจุบัน BOE เป็นผู้ผลิตหน้าจอให้กับหลายบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ โดยบริษัทที่เราน่าคุ้นตากันดีก็จะมี Apple Google เป็นต้น ซึ่งหลัก ๆ จะมี Motorola และ OnePlus ที่ใช้บริการ BOE เป็นซัปพลายเออร์รายหลักอยู่
ซึ่งถ้าหากโดนแบนในสหรัฐฯ Motorola และ OnePlus ก็สุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเลยทีเดียวตามคาดการณ์คดีนี้จะสิ้นสุดลงน่าจะช่วงกลางปีหน้า ยังไงต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าจะมีเจ้าดังเจ้าไหนรอด เจ้าไหนร่วง
ที่มา : Thelec
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
