แพทย์แผนจีนล้ำ! ใช้ "กระจกตรวจโรคอัจฉริยะ AI-หุ่นยนต์เสี่ยวคัง AI" ตรวจโรค

คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว หน่วยงานภายใต้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขับเคลื่อนศาสตร์การแพทย์แผนจีนยุคใหม่ เปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัยของการตรวจสุขภาพ ผสานศาสตร์การแพทย์แผนจีนและเทคโนโลยี AI เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อต้องการขับเคลื่อนการพัฒนาของการแพทย์แผนจีนในประเทศไทย โดยผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในวงการแพทย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนอย่างยั่งยืน

2 นวัตกรรม AI แห่งอนาคตของการแพทย์แผนจีน

กระจกตรวจโรคอัจฉริยะ AI คืออะไร

"กระจกตรวจโรคอัจฉริยะ AI" มีความสามารถในการวิเคราะห์สุขภาพแบบองค์รวม โดยการถ่ายภาพใบหน้าและลิ้น และประเมินผลสุขภาพด้วยระบบ AI อัจฉริยะแบบเรียลไทม์ ให้ผลลัพธ์ภายใน 6 วินาที ผู้ใช้งานจะได้รับคะแนนสุขภาพโดยรวม และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะต่างๆ เช่น ภาวะชี่พร่อง หยางพร่อง ร้อนชื้น เลือดคั่ง หรือชี่ติดขัด ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำความเข้าใจสุขภาพของตนเองตามหลักการแพทย์แผนจีน และยังมีฟังก์ชันวิเคราะห์ความเสี่ยงของการเกิดโรคอีกด้วย

นอกจากนี้ กระจกตรวจโรคอัจฉริยะ AI ยังสามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพตามฤดูกาล การเลือกใช้สมุนไพรจีนในการประกอบอาหาร การกดจุดเพื่อส่งเสริมสุขภาพ หรือแม้แต่ชาสมุนไพรที่เหมาะกับแต่ละบุคคล รวมถึงแนะนำการบริหารร่างกายที่เหมาะสม พร้อมระบบเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้กำลังออกกำลังกายอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

หุ่นยนต์เสี่ยวคัง AI  คืออะไร

"หุ่นยนต์เสี่ยวคัง AI" พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้รับการยอมรับใช้ในโรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลหลงหัว นครเซี่ยงไฮ้ เป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์ตรวจสุขภาพที่ผสานศาสตร์การแพทย์แผนจีนเข้ากับเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย เพื่อประเมินสุขภาพพื้นฐานของร่างกายแบบองค์รวม เพียง 4 ขั้นตอน เพื่อเข้าใจสุขภาพโดยรวมและนำไปสู่การวางแผนดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ได้แก่

1. การสแกนลิ้น: "เสี่ยวคัง" จะวิเคราะห์ลักษณะและสีของลิ้นอย่างละเอียด เพื่อบ่งชี้สภาวะของอวัยวะภายในต่างๆ เสมือนมีกระจกสะท้อนสุขภาพจากภายใน
2.  การสแกนใบหน้า: ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย "เสี่ยวคัง" จะตรวจจับความผิดปกติบนใบหน้า ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและป้องกันปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
3. การตรวจชีพจร(แมะ): "เสี่ยวคัง" มาพร้อมกับเครื่องแมะชีพจรอัจฉริยะ ที่สามารถวัดชีพจรได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ช่วยให้แพทย์ประเมินสภาวะของอวัยวะภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การตอบคำถามเฉพาะบุคคล: คำถามที่ออกแบบมาเพื่อให้การวิเคราะห์สุขภาพมีความแม่นยำและตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น

นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว กล่าวว่า “นับว่าเป็นครั้งแรกของในเมืองไทย ที่ได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาผสมผสานกับศาสตร์การแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมมาใช้ในการรักษาและวินิจฉัยโรค โดย “กระจกตรวจโรคอัจฉริยะ AI” และ “หุ่นยนต์เสี่ยวคัง AI” จะเข้ามามีส่วนช่วยในการตรวจสุขภาพเบื้องต้นได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งยังมีส่วนช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยเป็นการแสดงถึงความก้าวหน้าของการแพทย์แผนจีนและความพร้อมในการรองรับเทคโนโลยีในอนาคต

นวัตกรรมทั้ง 2 จะเปิดตัวให้ประชาชนทัjวไปได้รู้จัก และทดลองใช้ครั้งแรกในงาน “ก้าวล้ำ คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว พัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง” ครั้งที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ ภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ การจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดในวงการแพทย์แผนจีน, การจัดแสดงนิทรรศการแพทย์แผนจีนยุคใหม่, การบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการแพทย์แผนจีนจากทั้งในและต่างประเทศ, กิจกรรมเวิร์คชอปด้านสุขภาพ วิธีแก้ออฟฟิศซิโดรม ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน และศิลปวัฒนธรรมจีน ซึ่งจะเป็นสีสันภายในงาน และที่พลาดไม่ได้คือ การให้คำปรึกษาและบริการตรวจสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 ท่าน ฟรี อาทิ ฝังเข็ม การนวดทุยหนา เป็นต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่าย