svasdssvasds

วิวัฒนาการกลลวง ของมิจฉาชีพออนไลน์! ด้านภัยไซเบอร์

วิวัฒนาการกลลวง ของมิจฉาชีพออนไลน์! ด้านภัยไซเบอร์

ในโลกที่มิจฉาชีพออนไลน์ สามารถรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราได้ แถมยังปลอมเสียงเป็นคนที่รู้จักของเราได้อีก แล้วแบบนี้พี่มิจทั้งหลายจะไปหยุดที่ตรงไหน วันนี้ Spring จะพามาดูต้นตอของมิจแาชีพที่มีมาแล้วกว่า 5 ยุคด้วยกัน

SHORT CUT

  • โลกที่มิจฉาชีพออนไลน์หาเงินกันง่ายดายจากการหลอกคนอื่น วันนี้ Spring รวมวัฒนาการของมิจฉาชีพ 5 ยุคด้วยกัน
  • ยุค 1.0 คือยุคที่หลอกหลวงแบบซึ่งๆหน้า ยุค 2.0 คือยุคที่โทรมาหลอก ยุค 3.0 คือยุคที่สร้างเพจมาหลอก ยุค 4.0 เป็นการหลอกแบบคนรู้ใจ ยุค 5.0 เป็นการหลอกที่ใช้ AI
  • จะเห็นได้ว่า วิวัฒนาการของมิจฉาชีพออนไลน์ พัฒนาอยู่ตลอด ควรโหลดแอปที่สามารถจะป้องกัน และที่เหมาะกับโทรศัพท์ของแต่ละคนใช้
     

ในโลกที่มิจฉาชีพออนไลน์ สามารถรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราได้ แถมยังปลอมเสียงเป็นคนที่รู้จักของเราได้อีก แล้วแบบนี้พี่มิจทั้งหลายจะไปหยุดที่ตรงไหน วันนี้ Spring จะพามาดูต้นตอของมิจแาชีพที่มีมาแล้วกว่า 5 ยุคด้วยกัน

มิจฉาชีพออนไลน์ มีหลากหลายรูปแบบมากมาย ณ ขณะนี้ แถมยังรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราอย่างดิบดี ทำให้เป็นกลลวงที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และมีคนหลงเชื่อเป็นหลายสิบล้านคน และมิจฉาชีพพวกนี้มักจะหากลยุทธ์ใหม่ๆอยู่เสมอ และล่าสุดสามารถปลอมเป็นคนใกล้ตัวของเรา ได้แนบเนียนมากๆ และปัญหานี้ก็ยังไม่ได้ลดลงไป แต่กลายเป็นเราจะต้องระวังทุกๆอย่างมากยิ่งขึ้น วันนี้ Spring จึงได้รวบรวมข้อมูลว่าพวกภัยไซเบอร์ต่างๆและมิจฉาชีพออนไลน์พวกนี้ มาจากต้นตอของอะไรที่มีมาแล้วกว่า 5 ยุคด้วยกัน

วิวัฒนาการกลลวง ของมิจฉาชีพออนไลน์! ด้านภัยไซเบอร์

วิวัฒนาการกลลวงของมิจฉาชีพ

เริ่มต้นที่ยุค 1.0 คือยุคที่หลอกหลวงแบบซึ่งๆหน้า ตั้งแต่ที่เราเห็นกันไม่ว่าจะเป็นการหลอกขายของ ที่ดักตอนเราออกบ้าน หรือไม่ว่าปลอมเป็นคนที่กำลังเดือดร้อนมาขอความความช่วยเหลือ หลอกลวงผ่านความน่าสงสารและเห็นใจ ซึ่งเป็นการหลอกชนิดที่คนที่หลอกเราก็อยู่ตรงหน้าเรานั่นเอง และกลุ่มที่น่าจะตกเป็นเหยื่อมากที่สุดก็เป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือกลุ่มผู้สูงอายุ หรือพ่อแม่ของเราที่อาศัยอยู่ที่บ้าน 

ยุค 2.0 คือยุคที่โทรมาหลอก หรือเรียกง่ายๆว่าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์นั่นเอง จะหลอกลวงโดยการดทรมาและบอกว่าได้รับรางวัล หรือนำเสนอสินเชื่อประกันที่ไม่มีจริง หรือหลอกว่าทำผิดต้องโดนค่าปรับ เป็นต้น ซึ่งบางทีนั้นน่าเชื่อถือมากเพราะก็แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีตัวตนอยู่จริงๆ หรือรู้ข้อมูลธุรกรรมต่างๆของเรา และกลุ่มผู้คนที่จะตกเป็นเหยื่อก็เป็นแบบสุ่มด้วย
 

ยุค 3.0 คือยุคที่สร้างเพจมาหลอก เรียกได้ว่าเนียนสุดๆ หลอกขายของ และร้านก็ปลอม ที่มีการปั๊มผู้ติดตามเพจ และเอาเฟสหน้าม้ามาเม้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และหลอกล่อ และมักจะเอาของที่ตามหาหรือของที่หายาก มาชวนซื้อและดึงดูดคน ทำให้เป็นสิ่งที่น่าจะจับผิดว่าเพจนั้น เป็นเพจจริงหรือหลอกลวงนั่นเอง ทำให้กลุ่มที่จะตกเป็นเหยื่อนั้นเป็นคนที่ตามซื้อของที่แรร์ไอเทมและเป็น กระแส หรือกลุ่มที่เล่นโซเชียลมีเดียนั่นเอง

ยุค 4.0 ยุคนี้เสมือนเป็นการหลอกแบบคนรู้ใจ ในยุคนี้ต้องยอมรับว่ามิจฉาชีพออนไลน์มันฉลาดขึ้นมากจริงๆ เพราะมีการวิเคราะห์ข้อมูลของเหยื่อยมาได้ด้วย ทำให้การหลอกลวงนั้นยิ่งแนบเนียนมากๆ อีกอย่างยังสามารถเจาะกลุ่มที่เราสนใจ ณ ขณะนี้ได้อีกด้วย และมักจะใช้มุกที่ว่า เป็นเพื่อนทักมาขอยืมเงินทั้งที่จริงแล้วคือมิจฉาชีพนั่นเอง บางทีก็หลอกให้คลิกในเรื่องที่กำลังสนใจหรือเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรา ซึ่งพวกลิงค์หลอก ก็จะส่งมาผ่านรูปแบบ SMS เป็นส่วนใหญ่ และกลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นกลุ่มที่พวกมิจฉาชีพนั้นหาข้อมูลมาได้แม่นและทำความเข้าใจเหยื่อมาก่อนแล้ว
 

ยุค 5.0 ขั้นนี้ข้ามขั้นแบบจริงๆ เพราะเป็นการหลอกที่ใช้ AI เป็นตระกูลพวก Generative AI หรือ AI Deep Fake ซึ่งเอาเข้ามาใช้ในการปลอมแปลงเสียงและ ปลอมแปลงหน้าได้ ซึ่งด้านปลอมแปลงเสียงนั้นยังสามารถพอที่จะแยกแยะได้อยู่บ้าง แต่การปลอมแปลงหน้านั้น ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่หรือวัยรุ่นก็อาจจะพอแยกออกได้ว่าจริงหรือหลอก แต่ถ้าเป็นรุ่นพ่อแม่ของเรานี่ เป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน เพราะAI Deep Fake เป็นอะไรที่เนียนมากๆ และมิจฉาชีพมองเห็นถึงจุดอ่อนในข้อนี้เพื่อเอามาใช้ประโยนชน์ ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่น่าจะตกเป็นเหยื่อมากที่สุดก็คือ คนสูงวัยและ คนที่ทางมิจฉาชีพนั้นมีข้อมูลมากพอที่จะหลอกลวงนั่นเอง

สุดท้ายแต่ละยุคนั้นก็จะเห็นได้ว่า วิวัฒนาการของมิจฉาชีพออนไลน์ พัฒนาอยู่ตลอด ตั้งแต่หลอกแบบซึ่งๆหน้าไปจนถึงขั้นการใช้ AI และกลุ่มเป้าหมายก็ครอบคลุมไปเรื่อยๆฉะนั้นเราต้องมีเกราะป้องกัน และระวังตัวเองให้มากขึ้น หรือไม่ก็โหลดแอปที่สามารถจะป้องกันสายจากมิจฉาชีพได้ เช่น Whoscall หรือแอปอะไรที่เหมาะกับโทรศัพท์รุ่นที่เราใช้ได้ด้วยนะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related