ปัจจุบันอาชีพ "สตรีมเมอร์" หรือยูทูปเบอร์ ที่สร้างคอนเทนท์กันผ่านช่องทางยูทูปหรือทวิตช์ ซึ่งล่าสุดทางทวิตช์ ได้ประกาศลดส่วนแบ่งให้กับสตรีมเมอร์ลง แต่เชื่อว่าทางเกมเมอร์หรือสตรีมเมอร์ก็อาจไม่ได้รับผลกระทบอะไร เนื่องจากรายได้หลักมาจาก "สปอนเซอร์"
ล่าสุดแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่อย่าง Twitch ที่ได้มีการไลฟ์สดเล่นเกมกันทั่วโลก ได้ประกาศรายละเอียดส่วนแบ่งใหม่คือ สตรีมเมอร์ที่ได้ข้อตกลงพิเศษอยู่แล้ว จะได้ส่วนแบ่ง 70% ของรายได้ 100,000 ดอลลาร์แรก ส่วนที่เกินกว่านั้นจะได้ส่วนแบ่ง 50% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2023 เป็นต้นไป
ปัจจุบันทาง YouTube เองก็ได้ลดสัดส่วนรายได้ลงจากแต่ก่อน และเราได้เห็นสัญญานบางอย่างว่า ขณะนี้มีครีเอเตอร์ , ยูทูปเบอร์ รวมถึงสตรีมเมอร์หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ันั่นอาจทำให้ทางแพลตฟอร์มเองต้องปรับสัดส่วนรายได้ให้พอเหมาะสม
ทางผู้เขียนได้สังเกตทั้งยูทูปเบอร์และนักเล่นเกม (สตรีมเมอร์) ในปัจจุบัน
ยูทูปเบอร์หรือสตรีมเมอร์รุ่นเก่าที่ทำมานานแล้ว เริ่มไม่ได้สนใจรายได้หลักที่มาจากยอดวิว , ยอดติดตามอีกต่อไป
เพราะขณะนี้สปอนเซอร์หรือแบรนด์สินค้าต่างๆเริ่มเข้ามาให้การสนับสนุนครีเอเตอร์โดยตรง บางเจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจยอดวิวในคลิปนั้นๆ ว่าจะทำรายได้มากแค่ไหน เนื่องจากสปอนเซอร์หรือแบรนด์เป็นคนครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำนั้นๆ
ทางฝั่งของสตรีมเมอร์ , นักเล่นเกมเอง ก็มักจะมีผลิตภัณฑ์ต่างๆเข้ามาโฆษณา เราได้เห็นชัดเจนจากยูทูปเบอร์สายไอทีชื่อดัง 9arm เฉพาะยูทูปเบอร์คนเดียว ก็มีผลิตภัณฑ์เข้ามาอยู่ในคลิปวีดีโอและไลฟ์สด หลากหลายตัวไม่ว่าจะเป็น กราโนล่า Grainey , คีย์บอร์ด Keychron , เคสโทรศัพท์ 425Degree , AMD Ryzen หรือแว่น Ophtus ที่เจาะเข้าตลาดยูทูปเบอร์แรกๆเลยก็ว่าได้
จะเห็นได้ว่าแค่คนเดียวก็มีรายได้จากสปอนเซอร์ที่เข้ามาโฆษณามากหลายตัว หรือยกตัวอย่างยูทูปเบอร์สายกินอย่าง พีทอีทแหลก ก็ถูกเชิญไปกินตามร้านต่างๆเพื่อให้ไปโปรโมทร้านให้ ซึ่งนั่นจึงไม่ต้องคำนึงถึงยอดวิวอีกต่อไปแล้ว
เราได้เห็นสถิติเกี่ยวกับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์มากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งยูทูปเบอร์และสตรีมเมอร์เหล่านี้เป็น "อินฟลูเอนเซอร์" ประเภทหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมในการทำการตลาดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า "Influencer Marketing"
จากสถิติ นักการตลาดส่วนใหญ่เลือกใช้ Influencer Marketing ในปัจจุบัน ทำให้การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์นั้นทำกำไรได้และตลาดเติบโตจาก 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (63.4 ล้านบาท) ในปี 2559 เป็น 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (362 ล้านบาท)ในปี 2563
และล่าสุดในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 13.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (515 ล้านบาท) ซึ่งแสดงถึงการเติบโตที่มั่นคง ในปีนี้ และคาดว่าจะขยายไปสู่อุตสาหกรรมมูลค่า 16.4 พันล้านดอลลาร์ (612 ล้านบาท)
ที่มา : influencermarketinghub